“ซีพีเอ็น” ยันลงทุนต่อเนื่อง ชี้การเมืองป่วน-เศรษฐกิจซบเป็นปัญหาแค่ระยะสั้น พร้อมเล็งเข้าประมูลที่ดินสวนลุมไนท์บาซาร์เดิมแน่นอน ล่าสุดทุ่ม 3,200 ล้านบาทเปิดสาขาใหม่ที่ระยอง คาดสิ้นปีหน้าเปิดบริการ
นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานพัฒนาธุรกิจ และบริหารโครงการก่อสร้าง บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ซีพีเอ็นมีแผนลงทุนระยะยาวทั้งในและต่างประเทศ เป็นแผนยาว 5-10 ปี แม้ว่าปัญหาการเมืองและภาวะเศรษฐกิจในประเทศจะเป็นอย่างไรก็ตามก็จะเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้นเท่านั้น
ส่วนระยะยาวประเทศไทยยังเป็นตลาดที่ดี มีศักยภาพ จึงลงทุนต่อเนื่องไม่หยุดลงทุน โดยเฉพาะเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีในปี 2558 แล้ว ยิ่งต้องมีการขยายตัว ส่วนตลาดต่างประเทศนั้นซีพีเอ็นก็สนใจและอยู่ระหว่างการศึกษาและเตรียมพร้อม
อย่างไรก็ตาม ต้องการให้ภาครัฐหันมาแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะการลดอัตราภาษีสินค้าฟุ่มเฟือยแบรนด์เนมเพื่อให้สามารถแข่งขันกับต่างประเทศโดยเฉพาะฮ่องกงกับสิงคโปร์ได้ ถ้าเราจัดการปัญหาภาษีนี้ได้เราก็ไม่แพ้ชาติอื่นแล้ว
ขณะที่โครงการที่ดินบริเวณสวนลุมไนท์บาซาร์เดิมนั้นอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูลและการวางแผนรายละเอียดของโครงการ ก่อนที่จะยื่นข้อเสนอในวันสุดท้าย คาดว่าปลายเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งบริษัทก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน
“ทุนต่างชาติตอนนี้ก็มีการเคลื่อนย้ายกันมาก โดยเฉพาะยุโรป และอเมริกา ซึ่งส่วนใหญ่ทุนเหล่านั้นก็มองมาที่เอเชียเป็นหลัก แต่ซีพีเอ็นเชื่อว่าค้าปลีกของคนไทยมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว ถ้าทุนต่างชาติเข้ามาเมืองไทยก็ต้องคิดหนักว่าจะต่อสู้ของคนไทยได้หรือเปล่า”
ล่าสุดซีพีเอ็นลงทุน 3,200 ล้านบาท เปิดตัวโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา ระยอง ซึ่งเป็นโครงการที่ 26 ของบริษัท และเป็นโครงการที่ 4 ในภาคตะวันออก จากเดิมที่มีที่ชลบุรี และพัทยา 2 โครงการ
สำหรับโครงการที่ระยองนี้ถือเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมใหญ่สุดของประเทศ มีแหล่งอุตสาหกรรมมากกว่า 19 แหล่ง มีอีสเทิร์นซีบอร์ด มีมาบตาพุดเป็นอุตสาหกรรมหลัก และจะเป็นเกตเวย์แห่งภาคตะวันออกสู่กัมพูชา เวียดนาม ซึ่งเชื่อมั่นว่าเมื่อเปิดเออีซีในปี 2558 จะเป็นปัจจัยบวกสร้างโอกาสการลงทุนจากต่างชาติและภาคเอกชนอย่างมาก
“ระยองเป็นจังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจเทียบกับจำนวนประชากรสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ มีรายได้ประชากรต่อหัวสูงที่สุดของประเทศถึง 1.25 ล้านบาท มีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดสูงถึง 750,000 ล้านบาท เป็นอันดับ 1 ของภาคตะวันออก และเป็นอันดับ 2 รองจากกรุงเทพฯ”
สำหรับโครงการนี้มีพื้นที่เฟสแรก 130,000 ตร.ม.บนพื้นที่ 60 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด สาย 36 มอเตอร์เวย์ ไป อ.บ้านเพ ใกล้แยกเกาะกลอย รองรับกำลังซื้อคนในระยองกว่า 820,000 คน และจังหวัดใกล้เคียงรัศมี 120 กิโลเมตร รวมกว่า 3 ล้านคน คาดเปิดบริการประมาณเดือนธันวาคม 2557