“อสมท” เร่งดีลจ่ายพรีเมียร์ลีก ลุยปรับผังย่อยกู้โฆษณาหดรายได้วูบ

“อสมท” เร่งดีลพรีเมียร์ลีกกับซีทีเอช ยันต่อรองขั้นสุดท้ายอยู่ ปรับเงื่อนไขหวัง “อสมท” คว้าประโยชน์มากสุดเพื่อหวังสร้างรายได้มากอบกู้หลังจากไตรมาสสองที่คาดว่ารายได้จะต่ำกว่เป้าหมาย พร้อมเร่งปรับผังรายการย่อยดึงโฆษณา หลังรายการเดิมยังไม่เข้าตาคนดู

นายเจษฎา พรหมจาต หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกับทางบริษัท ซีทีเอช จำกัด มีความคืบหน้าไปมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาในขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับผลประโยชน์ต่างๆ

ล่าสุดพบว่าทางซีทีเอชเองก็มีความสนใจในเงื่อนไขที่ อสมท เสนอให้ก่อนนี้ คือ รูปแบบที่ อสมท จ่ายค่าลิขลิทธิ์ให้ซีทีเอชในการถ่ายทอดสดคู่ละ 2 ล้านบาท และมีการแบ่งรายได้จากการขายโฆษณาร่วมกันในอัตราส่วน 50 ต่อ 50 เท่ากัน รวมรายได้จากรายการไฮไลต์ด้วย

บริษัทฯ สามารถต่อรองเงื่อนไขต่างๆ กับทางซีทีเอชได้มากขึ้น เช่น การทำกิจกรรมออนกราวนด์ต่างๆ ในครั้งนี้ อสมท เองก็สามารถที่จะเลือกทีมคู่ที่แข่งขันได้มาทำกิจกรรมออนกราวนด์ทั้งหมด ไม่ใช่เพียงแค่ 17 คู่ที่ได้รับลิขสิทธิ์เท่านั้้นเหมือนในตอนแรกที่เจรจากัน และถือเป็นครั้งแรกด้วยที่มีการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดและได้ออนกราวนด์หมด

นายเจษฎา กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มั่นใจว่าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกจะเป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งในการผลักดันรายได้รวมสิ้นปีนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แน่นอน เพราะมีทั้งรายได้จากการขายโฆษณาและรายได้จากการจัดกิจกรรม หลังจากที่ในช่วงไตรมาสสองที่คาดว่าผลประกอบการจะยังคงต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้อีกเล็กน้อย

สาเหตุหลักเนื่องมาจากว่าเม็ดเงินโฆษณายังไหลเข้ามาไม่เป็นไปตามแผนงานเพราะรายการมีความหลากหลาย โดยเฉพาะรายการในช่วงเย็นที่มีความหลากหลายมากเกินไป โดยเฉพาะรายการประเภทเกมโชว์ แตกต่างจากช่อง 3 กับช่อง 7 ที่เน้นการฉายละครอย่างชัดเจนเหมือนกันทุกวันทำให้มีผู้ชมติตตามแน่นอน

ทั้งนี้ บริษัทหาทางแก้ไขไว้แล้ว โดยเตรียมที่จะปรับกลยุทธ์ด้วยการปรับผังรายการแบบย่อยทุกเดือน จากเดิมที่่ปรับย่อยทุก 3 เดือน และ 6 เดือน โดยล่าสุดเดือนกรกฎาคมนี้บริษัทฯ ปรับผังย่อยไปแล้วครั้งหนึ่ง

หลังจากที่ปรับผังรายการย่อยบางส่วนในช่วงเช้า ผลที่ได้ทำให้ทิศทางเริ่มดีขึ้น โฆษณาเริ่มไหลเข้าในรายการข่าวเช้า จากนี้จึงเหลือช่วงข่าวตอนเย็นที่จะต้องปรับกันใหม่

สำหรับการประมูลทีวีดิจิตอล นายเจษฎากล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมในการเข้าประมูลแล้ว ด้วยงบประมาณที่เตรียมไว้เป็นเงินสดมากกว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งหากต้องใช้งบมากกว่านั้นก็พร้อมที่จะกู้เงินจากสถาบันการเงิน โดยปัจบันมีธนาคาธนชาตและธนาคารกรุงไทยเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินอยู่แล้ว