xs
xsm
sm
md
lg

“ไทรเด้นท์” ดันตลาดโต 50% สร้างกระแสผ่านโซเชียลมีเดีย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แคดเบอรี อาดัมส์ (ประเทศไทย)
เปิดตัวหมากฝรั่ง “ซูการ์ฟรี” ชิ้นใหม่ในรอบ 5 ปีเจาะตลาดพรีเมียม เน้นสาววัยทำงาน มั่นใจทำยอดขายได้สูงถึง 80% ส่งผลให้ตลาดโต 40-50% หลังประสบความสำเร็จมาแล้วจากการเปิดตัวครั้งแรกเมื่อ 5 ปีก่อนที่ช่วยผลักดันตลาดโต 55% อัดงบ 85 ล้านบาทเดินหน้าใช้กลยุทธ์การตลาดรอบด้าน พร้อมสร้างกระแส “เลเยอร์ส เทรนด์” ผ่านเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม

นายสมชัย เกตุชัยโกศล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท แคดเบอรี อาดัมส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “มอนเดลีซ อินเตอร์เนชั่นแนล” (ชื่อเดิม คราฟท์ ฟูดส์ อิงค์) เปิดเผยว่า ในปี 2556 ตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทยมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 3.5 พันล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนของหมากฝรั่งที่มีน้ำตาล 67% และหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล (Sugar Free) 33% โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่ง 59% ประกอบด้วยหมากฝรั่งเดนทีน ไทรเด้นท์ คลอเร็ท และชิคเคล็ทส์ ล่าสุดบริษัทดำเนินกลยุทธ์เพื่อขับเคลื่อนตลาดหมากฝรั่งในประเทศไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่คือ “ไทรเด้นท์ เลเยอร์ส” เพื่อทำตลาดหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาลระดับพรีเมียม จำหน่ายราคากล่องละ 25 บาท (จำนวน 12 ชิ้น)

ตลาดหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาลในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด นับตั้งแต่บริษัทเปิดตัวผลิตภัณฑ์ไทรเด้นท์เมื่อปี 2551 ได้มีส่วนช่วยผลักดันให้ตลาดหมากฝรั่งรวมเติบโตขึ้นถึง 55% และยังคงอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละประมาณ 20% ต่อเนื่องจนถึงปี 2555 ซึ่งเติบโตถึง 25% จึงคาดว่าการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้จะทำให้ตลาดหมากฝรั่งรวมเติบโตขึ้นประมาณ 40-50% โดยคาดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้มากถึง 63-65%

“ในส่วนของไทรเด้นท์มียอดขายประมาณ 40-45% ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงกว่าตลาดรวม โดยมีส่วนแบ่งในตลาดหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาล 14% คิดเป็นรายได้ประมาณ 43% ของมูลค่าตลาด โดยคาดว่าหลังจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จะช่วยผลักดันยอดขายสูงขึ้นเป็น 70-80% และเพิ่มส่วนแบ่งเป็น 18-20% ในปี 2557 เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มใส่ใจในสุขภาพด้วยการหันมาบริโภคอาหารและของขบเคี้ยวประเภทไม่มีน้ำตาลมากขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาฟันผุและความอ้วน แต่ที่สำคัญคือผู้ประกอบการแต่ละรายเริ่มนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์มากขึ้นจึงทำให้ตลาดมีความแข็งแกร่งเพิ่มสูงขึ้น”
พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์ รับหน้าที่แบรนด์แอมบาสเดอร์ปีที่สองติดต่อกัน
การเปิดตัวไทรเด้นท์ เลเยอร์ส ถือเป็นการนำเสนอนวัตกรรมทางด้านผลิตภัณฑ์เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี จึงคาดว่าจะช่วยสร้างสีสันและกระตุ้นตลาดให้ตื่นตัวมากขึ้น ด้วยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นหมากฝรั่งที่ไม่มีน้ำตาลชนิดแผ่นสอดไส้ลูกอม 3 ชั้น 2 รส พร้อมบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่ 2 ชั้นที่สามารถฉีกให้มีความบางและพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพา โดยมี “พลอย-เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์” เป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน

“ตลาดหมากฝรั่งไม่มีน้ำตาลในประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและถือเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนตลาดหมากฝรั่งโดยรวม โดยเฉพาะในด้านจำนวนผู้บริโภคที่เคี้ยวหมากฝรั่งซึ่งปัจจุบันมีเพียงประมาณ 60% จึงทำให้มีช่องว่างอีกมากที่จะดึงดูดความสนใจผู้บริโภคอีก 30% ให้มาเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ โดยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ครั้งนี้จะเน้นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้หญิงวัยทำงานที่มีอายุ 20-30 ปี”

บริษัทฯ จัดงบประมาณ 85 ล้านบาทสำหรับการดำเนินกิจกรรมการตลาดแบบ 360 องศา ครอบคลุมทุกด้าน ทั้งสื่อโฆษณาโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ วิทยุ สื่อกลางแจ้ง สื่อสนับสนุนในร้านค้า ณ จุดขาย รวมถึงแจกสินค้าตัวอย่างฟรีเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ขณะเดียวกันยังเพิ่มความสำคัญในสื่อออนไลน์มากเป็นพิเศษด้วยการสร้างกระแส “เลเยอร์ส เทรนด์” ด้วยเฟซบุ๊ก แอปพลิเคชัน รวมถึงดิจิตอลแคมเปญทางอินสตาแกรม เพื่อตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยใช้ดาราและบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์มาช่วยสร้างกระแสให้แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยสื่อถึงหมากฝรั่งไทรเด้นท์ เลเยอร์สที่ฉีกความซ้ำซาก จำเจ สู่เทรนด์ใหม่ล่าสุดของหมากฝรั่งที่ไม่เหมือนใคร

“กลยุทธ์หนึ่งของเราคือการมุ่งขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ที่มีอำนาจการซื้อ เราจึงใช้วิธีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์พวกเขาผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีการพัฒนาแอปพลิเคชันการตกแต่งรูปภาพด้วยการแต่งหน้า ทำผม และแต่งกายตามกระแสเลเยอร์สเทรนด์ซึ่งเน้นการใช้แฟชั่นลายทาง โดยมีพลอย เฌอมาลย์ ให้คำแนะนำในฐานะแฟชั่นไดเรกเตอร์”


กำลังโหลดความคิดเห็น