ผู้ประกอบการสินค้าหมากฝรั่งยังผวาน้ำท่วมหนักปีนี้กระทบตลาดรวมตกเหมือนปีที่แล้ว ไทยลอตเต้เร่งเครื่องจับเข่าคุยห้างค้าปลีกเตรียมรับมือ พร้อมเปิดแผนลุยหนักทั้งเพิ่มแบรนด์ใหม่ เปิดตัวสินค้าใหม่ทั้งปี หวังดันแชร์รวมบริษัทฯ เป็น 15% ขึ้นแท่นที่ 2 เบียดริกลี่ย์ตกขอบ
นางสาววรางคณา อุทัยรัฐนิธิกุล ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท ไทยลอตเต้ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมของตลาดหมากฝรั่งปีนี้คาดว่าจะมีการเติบโตที่ดี ประมาณ 10% จากมูลค่าตลาดรวม 3,600 ล้านบาท ต่างจากเมื่อปีที่แล้วที่ตลาดรวมติดลบ 1% มีมูลค่าตลาดประมาณ 3,600 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ 3 ไตรมาสแรกปี 2554 จะเติบโตดีก็ตาม เนื่องจากปัญหาน้ำท่วมใหญ่ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตทำการผลิตสินค้าได้ไม่เต็มที่
“ปีนี้เชื่อได้ว่าแต่ละค่ายคงจะออกมาทำการตลาดและเปิดตัวสินค้าใหม่กันอย่างต่อเนื่องเต็มที่”
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยลบในปีนี้ก็ยังคงเป็นห่วงเรื่องของน้ำมท่วมหนักเช่นเดิมเพราะหากเกิดขึ้นจริงจะทำให้ผู้ประกอบการหมากฝรั่งไม่สามารถผลิตสินค้าและจัดจำหน่ายสินค้าได้เหมือนธุรกิจอื่น ซึ่งในส่วนของบริษัทฯ เองปีนี้จึงต้องวางแผนร่วมกับห้างค้าปลีกในการสต๊อกสินค้าและกระจายสินค้าร่วมกัน เพื่อแก้ไขและป้องกันปัญหาหากเกิดน้ำท่วมใหญ่อีก
สำหรับแผนธุรกิจของบริษัทฯ ปีนี้ เตรียมขยายตลาดส่งออกทั้งกลุ่มหมากฝรั่งและบิสกิตไปยังประเทศใหม่ๆ เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็นยุโรป เอเชีย หรือว่ากลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน
ขณะที่แผนธุรกิจในไทยจะรุกตลาดต่อเนื่องและเต็มที่ โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวมประมาณ 1,400 ล้านบาท เติบโต 50% จากปีที่แล้วที่มีรายได้ 1,000 ล้านบาท และคาดว่าส่วนแบ่งการตลาดในภาพรวมของบริษัทฯ ในตลาดหมากฝรั่งจะเพิ่มเป็น 15% จากเดิม 12% ขึ้นเป็นอันดับที่สองของตลาดแทนที่ริกลี่ย์ ซึ่งปัจจุบันมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 14% ส่วนอันดับ 1 เป็นของเดนทีนมีส่วนแบ่ง 56%
ทั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 10 รายการตลอดปี และยังมีแผนที่จะเปิดตัวหมากฝรั่งแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น ล่าสุดบริษัทได้เปิดตัวหมากฝรั่งจากประเทศญี่ปุ่นชื่อ “ลอตเต้ อาคูโอะ” เข้ามาทำตลาดหมากฝรั่งลมหายใจหอมสดชื่น ด้วยการชูจุดเด่นสินค้าทันสมัย และมีไลฟ์สไตล์ จับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-24 ปี และเตรียมงบ 80 ล้านบาท เพื่อทำกิจกรรมทางการตลาดสินค้าแบรนด์ดังกล่าวในปีนี้
“ลอตเต้ อาคูโอะ เป็นสินค้าที่เราผลิตและทำตลาดมานานแล้ว แต่ที่ผ่านมาเน้นส่งออกไปทำตลาดที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก ซึ่งคนญี่ปุ่นให้การตอบรับดีเราจึงมีแผนที่จะทำตลาดในไทยด้วย เพราะยังมีช่องว่างให้เข้ามาทำตลาด โดยปีแรกนี้จะเน้นสร้างแบรนด์สินค้าด้วยการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อ และทำกิจกรรมทางการตลาดในรูปแบบต่างๆ เช่น การจัดโรดโชว์ การเปิดตัวแอปพลิเคชันบนมือถือ” นางสาววรางคณากล่าว
รวมทั้งจัดกิจกรรมทางการตลาด เพื่อให้เข้ากับกระแสฟุตบอลยูโรที่กำลังจะมีขึ้นในช่วงกลางปีนี้ด้วยการทำกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายหลักของกลุ่มสินค้าหมากฝรั่งเป็นกลุ่มผู้ชาย แต่บริษัทไม่ได้เข้าไปเป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันกีฬาดังกล่าว