“ซีเอ็มจี” เตรียมเปิดอีก 2 แบรนด์ใหม่ครึ่งปีหลังตอบรับตลาดนาฬิกากลุ่มแฟชั่นโตต่อเนื่อง เผยครึ่งปีแรกตลาดรวมนาฬิกาเติบโต 50% ส่วนแผนรุกคาสิโอขยายฐานตลาด 4 กลุ่ม
นางเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแผนกสินค้าพิเศษ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด หรือซีเอ็มจี ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นาฬิกาคาสิโอ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลังนี้เตรียมที่จะเปิดตัวนาฬิกาใหม่ที่รับจัดจำหน่ายอีกอย่างน้อย 2-3 แบรนด์ เป็นกลุ่มแฟชั่นเพื่อเสริมความเข้มแข็งให้แก่พอร์ตโฟลิโอมากขึ้น จากเดิมที่มีแบรนด์หลักประมาณ 4-5 แบรนด์ เช่น คาสิโอ จี-ช็อค เกสส์ เป็นต้น และมีแบรนด์รองๆ อีกมาก ซึ่งก็จะมีการออกคอลเลกชันใหม่ต่อเนื่องด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของแบรนด์จี-ช็อค บริษัทฯ เน้นทำตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะจำนวน 4 กลุ่มเพื่อเป็นการขยายฐานตลาดในวงกว้างด้วย คือกลุ่มกีฬา ดนตรี ศิลปะ และแฟชั่น ด้วยการนำบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในด้านจิตใจของผู้บริโภคมาเป็นตัวแทนของสินค้าเพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค เช่น ภาคภูมิ ภู่สะอาด เป็นตัวแทนด้านกีฬา, ซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล เป็นตัวแทนด้านศิลปะ, จอรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ เป็นตัวแทนด้านแฟชั่น และดีเจมาฟไซ เป็นตัวแทนด้านดนตรี
เนื่องจากตลาดรวมนาฬิกาในกลุ่มแฟชั่นของไทยยังมีการเติบโตที่ดี ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ว่าภาพรวมจะยังคงมีปัจจัยลบฉุดกำลังซื้อในบางกลุ่มสินค้าอยู่ก็ตามแต่ตลาดนาฬิกายังดีอยู่ เพราะนอกจากผู้บริโภคมองว่าใช้งานแล้วยังมองเป็นเครื่องประดับและการลงทุนด้วย ขณะที่ตลาดนาฬิกากลุ่มแฟชั่นราคาไม่สูงมากเกินไปนัก จึงยังมีการเติบโตที่ดีเช่นกัน
ทั้งนี้ ปีนี้ตั้งงบการตลาดประมาณ 5-10% ของยอดขาย ทำทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ จัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และการจัดโรดโชว์ไปยังตลาดต่างจังหวัด ด้วยเพราะปีนี้มีแผนที่จะขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยเพราะเป็นตลาดที่เริ่มมีกำลังซื้อสูงขึ้น
นางเยาวลักษณ์กล่าวว่า ยอดขายรวมของแบรนด์คาสิโอของบริษัทฯ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโตมากถึง 50% เป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกับตลาดโลกด้วย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการยอมรับและราคาที่จำหน่ายอยู่ในระดับที่ผู้บริโภครับได้คือประมาณ 4,000-6,900 บาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ตลาดไทยกลายเป็นตลาดที่มียอดขายเติบโตเร็วที่สุดติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว และทำให้ปัจจุบันยอดขายนาฬิกาคาสิโอในประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศของโลกที่มียอดขายสูง และไทยยังติดท็อปทรีในอาเซียนด้วย รองจากสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
สำหรับสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมแบรนด์คาสิโอประมาณ 8 แสนเรือน เติบโต 50% จากปี 2555 ที่มียอดขายประมาณ 5.2 แสนเรือน และปี 2554 มียอดขายประมาณ 3 แสนเรือน
นางเยาวลักษณ์ กิจทวีสินพูน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดแผนกสินค้าพิเศษ บริษัท เซ็นทรัลมาร์เก็ตติ้งกรุ๊ป จำกัด หรือซีเอ็มจี ผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นาฬิกาคาสิโอ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจครึ่งปีหลังนี้เตรียมที่จะเปิดตัวนาฬิกาใหม่ที่รับจัดจำหน่ายอีกอย่างน้อย 2-3 แบรนด์ เป็นกลุ่มแฟชั่นเพื่อเสริมความเข้มแข็งให้แก่พอร์ตโฟลิโอมากขึ้น จากเดิมที่มีแบรนด์หลักประมาณ 4-5 แบรนด์ เช่น คาสิโอ จี-ช็อค เกสส์ เป็นต้น และมีแบรนด์รองๆ อีกมาก ซึ่งก็จะมีการออกคอลเลกชันใหม่ต่อเนื่องด้วย
นอกจากนี้ ในส่วนของแบรนด์จี-ช็อค บริษัทฯ เน้นทำตลาดแบบเจาะกลุ่มเป้าหมายเฉพาะจำนวน 4 กลุ่มเพื่อเป็นการขยายฐานตลาดในวงกว้างด้วย คือกลุ่มกีฬา ดนตรี ศิลปะ และแฟชั่น ด้วยการนำบุคคลที่มีชื่อเสียงและมีอิทธิพลในด้านจิตใจของผู้บริโภคมาเป็นตัวแทนของสินค้าเพื่อสื่อสารไปยังผู้บริโภค เช่น ภาคภูมิ ภู่สะอาด เป็นตัวแทนด้านกีฬา, ซันเต๋อ-ยศนันท์ วุฒิกรสมบัติกุล เป็นตัวแทนด้านศิลปะ, จอรัฏฐ์ พรพนิตพันธุ์ เป็นตัวแทนด้านแฟชั่น และดีเจมาฟไซ เป็นตัวแทนด้านดนตรี
เนื่องจากตลาดรวมนาฬิกาในกลุ่มแฟชั่นของไทยยังมีการเติบโตที่ดี ในครึ่งปีแรกที่ผ่านมาแม้ว่าภาพรวมจะยังคงมีปัจจัยลบฉุดกำลังซื้อในบางกลุ่มสินค้าอยู่ก็ตามแต่ตลาดนาฬิกายังดีอยู่ เพราะนอกจากผู้บริโภคมองว่าใช้งานแล้วยังมองเป็นเครื่องประดับและการลงทุนด้วย ขณะที่ตลาดนาฬิกากลุ่มแฟชั่นราคาไม่สูงมากเกินไปนัก จึงยังมีการเติบโตที่ดีเช่นกัน
ทั้งนี้ ปีนี้ตั้งงบการตลาดประมาณ 5-10% ของยอดขาย ทำทั้งบีโลว์เดอะไลน์และอะโบฟเดอะไลน์ จัดกิจกรรมการตลาดอย่างต่อเนื่อง และการจัดโรดโชว์ไปยังตลาดต่างจังหวัด ด้วยเพราะปีนี้มีแผนที่จะขยายตลาดต่างจังหวัดมากขึ้นด้วยเพราะเป็นตลาดที่เริ่มมีกำลังซื้อสูงขึ้น
นางเยาวลักษณ์กล่าวว่า ยอดขายรวมของแบรนด์คาสิโอของบริษัทฯ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมาเติบโตมากถึง 50% เป็นการเติบโตในทิศทางเดียวกับตลาดโลกด้วย สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการยอมรับและราคาที่จำหน่ายอยู่ในระดับที่ผู้บริโภครับได้คือประมาณ 4,000-6,900 บาท ซึ่งการเติบโตดังกล่าวส่งผลให้ตลาดไทยกลายเป็นตลาดที่มียอดขายเติบโตเร็วที่สุดติดต่อกันมา 3 ปีแล้ว และทำให้ปัจจุบันยอดขายนาฬิกาคาสิโอในประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ประเทศของโลกที่มียอดขายสูง และไทยยังติดท็อปทรีในอาเซียนด้วย รองจากสิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
สำหรับสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมแบรนด์คาสิโอประมาณ 8 แสนเรือน เติบโต 50% จากปี 2555 ที่มียอดขายประมาณ 5.2 แสนเรือน และปี 2554 มียอดขายประมาณ 3 แสนเรือน
