“นิวัฒน์ธำรง” สั่งปรับระบบใช้ไอทีช่วยรับจำนำข้าว “ยรรยง” ฟิตจัดตั้งศูนย์แก้ข้าวเสื่อม

“นิวัฒน์ธำรง” ไขลานข้าราชการพาณิชย์ เน้นทำงานตามภารกิจและนโยบายรัฐบาล แต่ต้องโปร่งใส ไร้โกง ประเดิมสั่งทบทวนเป้าส่งออก ปรับระบบดูแลจำนำข้าว “ยรรยง” ฟิต สั่งตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้าข้าวเสื่อมคุณภาพ พร้อมทำแผนแก้ปัญหาสินค้าเกษตรล้นตลาด

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายการทำงานให้แก่ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ วานนี้ (16 ก.ค.) ว่า ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือทำงานเป็นทีม และผลักดันให้บรรลุตามภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ และนโยบายรัฐบาล เน้นความโปร่งใส ป้องกันการทุจริต โดยมีภารกิจเร่งด่วน คือ การดูแลโครงการรับจำนำ การดูแลค่าครองชีพประชาชน ผลักดันการเจรจาการค้าภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กรอบต่างๆ ส่งเสริมการส่งออก รวมถึงส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย และผู้ผลิตสินค้าโอทอป

ทั้งนี้ ในด้านการส่งออกอาจต้องทบทวนเป้าหมายขยายตัว 7% ใหม่ หลังจาก 5 เดือนแรกของปีนี้มูลค่าการส่งออกขยายตัวไม่ถึง 2% ส่วนการรับจำนำข้าวได้สั่งการให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) เร่งพัฒนาและติดตั้งระบบไอทีเพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการรับจำนำข้าว รวมทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด และอุปกรณ์อาร์เอฟไอดีบนกระสอบข้าวหรือติดบาร์โค้ดเพื่อติดตามข้าวในสต๊อกรัฐบาล

ส่วนการแบ่งงาน ได้มอบหมายให้นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กำกับดูแลกรมการค้าภายใน อคส. ตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กำกับดูแลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา สถาบันอัญมณีและเครื่องประดับ และศูนย์ศิลปาชีพระหว่างประเทศ ส่วนตนกำกับดูแล กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กรมการค้าต่างประเทศ กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ และสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.นี้เป็นต้นไป

นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า จะจัดตั้งศูนย์ป้องกันและปราบปรามการค้าข้าวเสื่อมคุณภาพ โดยให้กรมการค้าภายในเป็นเจ้าภาพร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ทั้งกรมการค้าต่างประเทศ อคส. กรมการข้าว กรมวิชาการเกษตร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์บริการ สถาบันการศึกษาที่มีห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ (ห้องแล็บ) เพื่อตรวจสอบคุณภาพข้าวในประเทศที่มีปัญหาการร้องเรียนว่าไม่ได้คุณภาพ หรือสงสัยว่ามีสารพิษปนเปื้อน ในเบื้องต้นให้ โทร.ร้องเรียน หรือแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569

นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายใน ซึ่งเดิมมีการตรวจสอบคุณภาพข้าวสารหอมมะลิบรรจุถุง และมอบตราสัญลักษณ์มือพนมเพื่อรับประกันคุณภาพ ก็ให้ขยายไปถึงข้าวขาวด้วย

นายยรรยงกล่าวอีกว่า กำลังอยู่ระหว่างการจัดเตรียมแผนป้องกันและแก้ปัญหาผลผลิตสินค้าเกษตรล้นตลาด และราคาตกต่ำ โดยจะกำหนดระดับราคาสินค้าเกษตรเป้าหมายว่า หากระดับราคาต่ำจนถึงเท่าไรจึงจะใช้มาตรการแก้ปัญหา เช่น หากราคาอยู่ระดับต่ำมาก อาจใช้มาตรการรับจำนำ หากราคาปานกลาง หรือไม่ต่ำมากอาจช่วยขยายตลาดเชื่อมโยงสินค้าจากแหล่งผลิตไปสู่ผู้บริโภค หรือสินค้าบางชนิดอาจขายให้โรงงานซื้อเพื่อผลิตพลังงานทดแทน โดยมีสินค้าเป้าหมาย เช่น มันสำปะหลัง หมู ไข่ ลำไย เป็นต้น

สำหรับการแก้ปัญหาผลผลิตลำไยล้นตลาดในปีนี้ที่คาดจะมีมากถึง 9 แสนตันจากปีก่อนๆ ที่ 7-8 แสนตัน จะเร่งหารือกับสมาคมโรงแรม บริษัท การท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ให้นำลำไยสดไปวางในโรงแรม หรือในสนามบินใหญ่ๆ เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง หรือสนามบิน จ.เชียงใหม่ให้มากขึ้น โดยให้นักท่องเที่ยวชิมฟรี และซื้อเป็นของฝาก ขณะเดียวกันจะเร่งเจรจากับจีน และอินโดนีเซีย ผู้นำเข้าลำไยรายใหญ่จากไทยให้เพิ่มปริมาณการนำเข้า