xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เร่งสอบเช็ค ขายข้าวจีทูจี6แบงก์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน -"ยิ่งลักษณ์"รอผลสรุป ตรวจสต็อกข้าวอย่างเป็นทางการ ลั่นพบโรงสีทุจริต เล่นงานกฎหมายทันที ขณะที่ ป.ป.ช.พบพิรุธเช็ค 1,460 ใบเอี่ยวโกงจำนำข้าว เร่งสาว 6 แบงก์ หาต้นตอก่อนเช็คบิล “กล้านรงค์”แจงคืบหน้าหลังได้ข้อมูล-เอกสารจากหลายหน่วยงาน "ชวนนท์ " ชี้จำนำข้าวขาดทุนไม่หยุด เร่งระบายเดือนละ 5 แสนตัน ทำเจ๊งเพิ่ม 3-4 หมื่นล้าน รวมขาดทุน 2 ปี ไม่ต่ำกว่า 3 แสนล้าน "มาร์ค"เตือนตั้งราคาจำนำแบบขั้นบันได มีช่องโหว่ให้ทุจริต สวมสิทธิ์-เวียนเทียน

วานนี้ (9ก.ค.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าทุจริตโครงการรับจำนำข้าวว่า ยังไม่มีผลสรุปอย่างเป็นทางการ สำหรับแนวโน้มที่จะดำเนินการกับโรงสีที่ทุจริตนั้น ถ้าตรวจพบว่าทุจริตจุดไหน ก็จะดำเนินการทางคดีทันที ก็คงให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และข้อมูลปริมาณข้าวคงเหลือสรุปเป็นรายละเอียดก่อน เพราะเขากำลังทำงานอยู่ และทางเราก็เร่งรัดอยู่

ผู้สื่อข่าวถามว่า การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล เนื่องจากน.ส.สุภา ชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภา ถูกนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง จะมีการสอบถึงข้อเท็จจริงอย่างไร น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ตอนนี่อยู่ที่หน่วยงานคงจะต้องไปดูในรายละเอียด และเชื่อว่าทางกระทรวงการคลัง จะให้ความยุติธรรมอยู่แล้ว คงไม่มองในประเด็นการเมือง

นายกล้านรงค์ จันทิก กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีโครงการรับจำนำข้าว กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินการไต่สวนว่า ขณะนี้ทาง ป.ป.ช.ได้ทำการสอบพยานบุคคลไปแล้วทั้งหมด 11 ปาก

ขณะที่ประเด็นการระบายข้าวนั้น ป.ป.ช.ได้ขอ และได้รับเอกสารข้อเท็จจริงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว คือจาก สลค.ในส่วนมติ ครม.เกี่ยวกับการระบายข้าวทุกครั้ง ข้อมูลการส่งมอบ ข้อมูลการระบายข้าวในสต๊อกของรัฐบาล ที่ส่งออกนอกราชอาณาจักร จาก อคส. ทางด้านกระทรวงพาณิชย์ ก็ได้ทำเอกสารชี้แจงการระบายข้าว รวมไปถึงข้อมูลการส่งออกข้าว จำนวน 3 ครั้ง จากกรมศุลกากร และกรมการค้าต่างประเทศ

นอกจากนี้ยังมีธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ส่งข้อมูลมาให้ ป.ป.ช.เกี่ยวกับแคชเชียร์เช็ค ตามที่ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ร้อง ที่ได้ส่งมาให้ ป.ป.ช. ก่อนหน้านี้ด้วย

นายกล้านรงค์ กล่าวด้วยว่า ในการสอบปากคำพยาน ในประเด็นการระบายข้าว ป.ป.ช.ได้ดำเนินการไปแล้วหลายราย อาทิ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ และอดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ที่สำคัญจากการไต่สวนทั้งหมด ป.ป.ช. พบว่า มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของทางธนาคาร ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ส่งแคชเชียร์เช็ค ที่เกี่ยวกับการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี มาให้ ป.ป.ช.ทั้งหมด 1,460 ฉบับ

“ในแคชเชียร์เช็คจำนวน 1,460 ฉบับนี้ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบย้อนหลังกลับไปพบว่า ออกมาจากธนาคาร 6 แห่ง ซึ่ง ป.ป.ช. กำลังสอบสวนกลับไปอีกว่า บุคคลที่ซื้อเช็คในแต่ละฉบับนี้ มีใครบ้าง ซื้อจากบัญชีใดบ้าง และจะต้องสอบพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการซื้อแคชเชียร์เช็คด้วยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวอย่างไร ในขั้นตอนนี้ยอมรับว่าต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะมีแคชเชียร์เช็คมีจำนวนมากและกระจายอยู่ถึง 6 ธนาคาร ขณะเดียวกันก็กำลังขอเอกสารในการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐเพิ่มเติมด้วย” นายกล้านรงค์ กล่าว

**สิ้นปี56 ขาดทุนไม่ต่ำกว่า3แสนล.

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึง การระบายข้าวของรัฐบาลที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ระบุว่า จะระบายข้าวเดือนละ 2-3 ครั้ง ครั้งละ 2-3 แสนตัน ซึ่งจะทำให้ระบายข้าวได้ 6-9 แสนตัน แต่เท่าที่ตนตรวจสอบจากข้อมูลในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พบว่า ประเทศไทยจำเป็นต้องระบายข้าวให้ได้ 5 แสนตัน ตนจึงไม่เชื่อว่าจะทำได้ตามที่ รมว.พาณิชย์กล่าวอ้าง และที่น่าเป็นห่วงคือ กรณีที่นายนิวัฒน์ธำรง ไม่ยอมเปิดเผยราคา อ้างว่าเป็นเรื่องความอ่อนไหว โดยเฉพาะการขายแบบจีทูจี ซึ่งตนพอจะเข้าใจว่า อาจมีปัญหาเรื่องการขายให้แต่ละประเทศในราคาที่ไม่เท่ากัน แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องบอกความจริงกับคนไทยคือ ประเทศกำลังจะขาดทุนต่อเนื่อง ใช่หรือไม่ เพราะถ้าขายได้เดือนละ 5 แสนตัน ตามที่มีการกำหนดเป้าหมายใน กขช. หากขายในราคา 12,000 บาทต่อตัน ในขณะที่ต้นทุนอยู่ที่ 23,000 บาทต่อตัน เท่ากับรัฐบาลจะขาดทุน 11,000 บาท แต่ตนจะยกให้ว่า ขาดทุนตัวเลขกลมๆ ที่ 10,000 บาท ดังนั้นหากขายได้ 5 แสนตันต่อเดือน ภายใน 6 เดือน จะขาดทุนไม่ต่ำกว่า 30,000 ล้านบาท

" ถ้าขาดทุนต่อเนื่องเพิ่มจากตัวเลข 2.6 แสนล้าน ที่พรรคเคยเปิดเผยไว้ โดยในอีก 6 เดือนข้างหน้า จะขาดทุนจากการระบายข้าวอีก ประมาณ 3-4 หมื่นล้าน ก็เท่ากับว่าจนถึงสิ้นปี 56 ตัวเลขขาดทุนจากโครงการนี้อย่างต่ำจะสูงถึง 3 แสนล้านบาท "

**ระวังจำนำแบบขั้นบันไดมีช่องโหว่ให้ทุจริต

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรับจำนำข้าว ฤดู 56/57 ว่า การที่ รมว.พาณิชย์ ยังยืนยันเรื่องการระบายข้าว แต่ไม่ได้มีอะไรที่เป็นรูปธรรมใหม่ ว่าจะแตกต่างจากสถานการณ์เดิมอย่างไร ซึ่งที่พูดว่าจะส่งออกอีกหลายล้านตัน ก็เป็นไปตามที่เคยแถลงก่อนหน้านี้ ส่วนที่มีข้อเสนอเข้าคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่จะระบายข้าวประมาณ 6 ล้านตันในปีนี้ ซึ่งตนถือว่ายังระบายไม่ทันกับข้าวที่เข้ามา ทั้งนี้ก็ยังไม่ชัดเจนว่าการพยายามที่จะดูว่าจะไม่ลดราคา หรือจะลดราคายังไงไม่ให้ถูกด่ามากนั้น ก็ยังวนอยู่กับว่า จะทำอย่างไรให้ชาวนายอมรับราคาจำนำที่มันลดลง ล่าสุดก็เลยมีแนวคิดว่าชาวนาที่ปลูกข้าวน้อย รายย่อย น่าจะได้ราคาสูงกว่าชาวนารายใหญ่ ซึ่งที่จริงแล้วในแง่ที่ว่าควรจะช่วยเกษตรกรรายย่อยมากกว่านั้น ตนก็สนับสนุน แต่ที่ผ่านมาหลักการที่ทำกันมาก็พอไปได้โดยการกำหนดเป็นเพดานว่า เกษตรกร 1 รายนั้น ต้องได้รับการช่วยเหลือไม่เกินปริมาณข้าว หรือปริมาณเงินเท่าใด ส่วนการจะทำเป็นขั้นบันไดนั้น ก็ฟังดูดี ในแง่ที่ว่าสามารถกำหนดได้หลายอัตรา แต่ต้องมีคำตอบ และมาตรการที่เป็นรูปธรรมในเชิงปฏิบัติว่า ตกลงแล้วจะป้องกันอย่างไรไม่ให้เกิดการสวมสิทธิ์ หมุนเวียนระหว่างข้าวที่จำนำในราคาหนึ่งกับอีกราคาหนึ่ง ก็จะยุ่งยากพอสมควร ซึ่งจะทำให้การบริหารยิ่งยากขึ้นไปอีก จากการที่มีช่องโหว่ ช่องว่างในการทุจริตอยู่เยอะอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าเท่ากับยิ่งเป็นการเปิดช่องให้ทุจริตมากขึ้น โดยคนมีข้าวแปลงใหญ่ ก็อาจจะหมุนมาใช้สิทธิ์ 5-10 ไร่ หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่ตนพูดมาตลอดว่า นโยบายทุกนโยบายนั้น เวลาที่จะตัดสินใจอะไรต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในแง่ของช่องโหว่ ช่องว่าง ที่จะเกิดการทุจริตด้วย เพราะป.ป.ช. ก็ชี้มาก่อนหน้านี้ว่า วิธีคิดในเชิงนโยบายนี้นำไปสู่ปัญหาการทุจริตได้
กำลังโหลดความคิดเห็น