“ซีพีเอฟ” เปิดแผนรุก 3 ปีหลังปรับโมเดลธุรกิจร้านค้าปลีกใหม่ชัดเจน วางงบลงทุน 1,500 ล้านบาทปั้น 3 แบรนด์ ซีพีเฟรชมาร์ทพลัส ซีพีเฟรชมาร์ท และตู้เย็นชุมชน ลงรากลึกระดับตำบล ดันเป้ารายได้ 22,000 ล้านบาทในปี 2559 ซุ่มเงียบรุก ตปท.รับเออีซี
นายชัยยุทธ ทิพย์สุวรรณพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 3 ปีจากนี้ (2557-2559) บริษัทฯ วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 1 ,500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาทั้ง 3 แบรนด์รวมกัน ประกอบด้วย ร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัส (คือร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตเดิม) ร้านซีพีเฟรชมาร์ท และตู้เย็นชุมชน โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 22,000 ล้านบาท แยกเป็นร้านซีพีเฟรชมาร์ท 13,000 ล้านบาท ตู้เย็นชุมชน 7,000 ล้านบาท และร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัส 2,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการเปิดสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล
ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 8,500 ล้านบาท เติบโต 32% จากปีที่แล้ว แยกเป็น เฟรชมาร์ทสัดส่วน 85% ตู้เย็นชุมชน 10% และเฟรชมาร์ทพลัสสัดส่วน 5% โดยช่วง 5 เดือนแรกนี้ทำรายได้แล้ว 4,000 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
นอกจากนั้นจะลงทุนอีก 150 ล้านบาทเพื่อเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าย่อยอีก 3 แห่งที่ภาคเหนือ อีสาน และใต้ จากเดิมมี 3 แห่งแล้ว
ปัจจุบันซีพีเฟรชมาร์ทพลัสมี 5 สาขา ไม่มีแผนที่จะขยายสาขาปีนี้ แต่จะขยายในช่วง 3 ปีจากนี้เฉลี่ย 10-15 สาขาต่อปี คาดว่าจะมีรวม 50 สาขา ส่วนแบรนด์ซีพีเฟรชมาร์ทปัจจุบันมี 620 สาขา จะเป็น 700 สาขาปีนี้ และเพิ่มอีก 300-350 สาขาต่อปี รวมอีก 3 ปีเป็น 1,700 สาขา และตู้เย็นชุมชน ปัจจุบันมี 12,000 จุด สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 16,000 จุด
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนสร้างความแข็งแกร่งและความชัดเจนของแต่ละโมเดลใหม่ โดยชูแนวคิดจะไม่เป็นเพียงซีพีเอาต์เลต แต่จะเป็นรีเทลเลอร์ด้วย ภายใต้โมเดลแต่ละชนิดที่มีการปรับรูปแบบใหม่ภายในปีนี้ และจะพร้อมรุกหนักในปี 2557 โดยร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัสได้ปรับมาจากร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตประมาณ 2-3 เดือนแล้ว มี 5 สาขา เนื่องจากที่ผ่านมา
แม้ว่าจะเป็นโมเดลที่มีคนเข้าร้านมากก็ตาม แต่เนื่องจากปริมาณสินค้าและประเภทสินค้ายังไม่มากและครอบคลุมความต้องการ ทำให้ปริมาณการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าเฉลี่ย 60-70 บาทเอง ใกล้เคียงกับร้านคอนวีเนียนสโตร์เซเว่นอีเลฟเว่น ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป็น ซูเปอร์มาร์เกตที่ 160 บาทต่อบิล จากนี้จะเติมสินค้าที่ไม่ใช่ซีพีเข้าไปมากขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 เดือนนี้คาดว่าจะมีการเจรจาร่วมกับทางปั๊มน้ำมันเชลล์อึกครั้ง หลังจากที่เซ็นเอ็มโอยูกันไปเมื่อปีที่แล้วถึงการเปิดร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตในปั๊มเชลล์ แต่เนื่องจากรูปแบบของร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตได้เปลี่ยนไป คงจะหาแนวทางการร่วมมือต่อไป
ส่วนร้านซีพีเฟรชมาร์ทจะเน้นสินค้าที่เป็นโฟรเซนฟูดอยู่แล้ว รวมทั้งอาหารสดและอาหารพร้อมปรุงสุกรับประทานที่ดำเนินการมาแล้ว 7 ปี ขณะที่ตู้เย็นชุมชนก็จะกระจายไปให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของลูกค้าทุกโมเดลมีการซื้อต่อเนื่องเพิ่ม 5 รายต่อสัปดาห์ หรือเพิ่มขึ้น 10% จากเดิม และมีแผนเพิ่มรายการสินค้ากลุ่มเครื่องปรุงอาหาร กลุ่มเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เพื่อตอบสนองกลุ่มครอบครัว จากปัจจุบันมีสินค้าจำหน่าย 3 กลุ่มแบรนด์ คือ แบรนด์ซีพีเฟรชมาร์ท 40% แบรนด์ซีพี 30% และมัลติแบรนด์อีก 20% และอื่นๆ
“ที่ผ่านมาร้านซีพีเฟรชมาร์ทได้ปิดสาขาไปประมาณ 70 แห่งในช่วงปีเศษเพราะรายได้ไม่คุ้มต้นทุนเนื่องจากปัญหาทางด้านทราฟฟิก เช่น มีการสลับถนนเป็นวันเวย์ มีการสร้างสะพานลอย มีการปรับปรุงถนน เป็นต้น ทำให้ปริมาณทราฟฟิกลูกค้าลดลง แต่ตอนนี้เราปรับกลยุทธ์ปรับโมเดลใหม่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้เริ่มนำโมเดลต่างๆ ขยายไปบ้างแล้วแต่ยังไม่เต็มรูปแบบ เช่น เปิดร้านซีพีเฟรชมาร์ทที่ประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย และอยู่ระหว่างศึกษาตลาดอีกหลายประเทศ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปีเพื่อความชัดเจนในการรุกตลาดรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
นายชัยยุทธ ทิพย์สุวรรณพร รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ เปิดเผยว่า แผนธุรกิจ 3 ปีจากนี้ (2557-2559) บริษัทฯ วางงบลงทุนรวมไว้ที่ 1 ,500 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาทั้ง 3 แบรนด์รวมกัน ประกอบด้วย ร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัส (คือร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตเดิม) ร้านซีพีเฟรชมาร์ท และตู้เย็นชุมชน โดยคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 22,000 ล้านบาท แยกเป็นร้านซีพีเฟรชมาร์ท 13,000 ล้านบาท ตู้เย็นชุมชน 7,000 ล้านบาท และร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัส 2,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการเปิดสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และตำบล
ขณะที่ปีนี้คาดว่าจะมีรายได้รวม 8,500 ล้านบาท เติบโต 32% จากปีที่แล้ว แยกเป็น เฟรชมาร์ทสัดส่วน 85% ตู้เย็นชุมชน 10% และเฟรชมาร์ทพลัสสัดส่วน 5% โดยช่วง 5 เดือนแรกนี้ทำรายได้แล้ว 4,000 ล้านบาทต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย
นอกจากนั้นจะลงทุนอีก 150 ล้านบาทเพื่อเพิ่มศูนย์กระจายสินค้าย่อยอีก 3 แห่งที่ภาคเหนือ อีสาน และใต้ จากเดิมมี 3 แห่งแล้ว
ปัจจุบันซีพีเฟรชมาร์ทพลัสมี 5 สาขา ไม่มีแผนที่จะขยายสาขาปีนี้ แต่จะขยายในช่วง 3 ปีจากนี้เฉลี่ย 10-15 สาขาต่อปี คาดว่าจะมีรวม 50 สาขา ส่วนแบรนด์ซีพีเฟรชมาร์ทปัจจุบันมี 620 สาขา จะเป็น 700 สาขาปีนี้ และเพิ่มอีก 300-350 สาขาต่อปี รวมอีก 3 ปีเป็น 1,700 สาขา และตู้เย็นชุมชน ปัจจุบันมี 12,000 จุด สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 16,000 จุด
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนสร้างความแข็งแกร่งและความชัดเจนของแต่ละโมเดลใหม่ โดยชูแนวคิดจะไม่เป็นเพียงซีพีเอาต์เลต แต่จะเป็นรีเทลเลอร์ด้วย ภายใต้โมเดลแต่ละชนิดที่มีการปรับรูปแบบใหม่ภายในปีนี้ และจะพร้อมรุกหนักในปี 2557 โดยร้านซีพีเฟรชมาร์ทพลัสได้ปรับมาจากร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตประมาณ 2-3 เดือนแล้ว มี 5 สาขา เนื่องจากที่ผ่านมา
แม้ว่าจะเป็นโมเดลที่มีคนเข้าร้านมากก็ตาม แต่เนื่องจากปริมาณสินค้าและประเภทสินค้ายังไม่มากและครอบคลุมความต้องการ ทำให้ปริมาณการใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าเฉลี่ย 60-70 บาทเอง ใกล้เคียงกับร้านคอนวีเนียนสโตร์เซเว่นอีเลฟเว่น ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งเป็น ซูเปอร์มาร์เกตที่ 160 บาทต่อบิล จากนี้จะเติมสินค้าที่ไม่ใช่ซีพีเข้าไปมากขึ้นเพื่อเติมเต็มความต้องการลูกค้า
อย่างไรก็ตาม ภายใน 2 เดือนนี้คาดว่าจะมีการเจรจาร่วมกับทางปั๊มน้ำมันเชลล์อึกครั้ง หลังจากที่เซ็นเอ็มโอยูกันไปเมื่อปีที่แล้วถึงการเปิดร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตในปั๊มเชลล์ แต่เนื่องจากรูปแบบของร้านซีพีฟู้ดมาร์เก็ตได้เปลี่ยนไป คงจะหาแนวทางการร่วมมือต่อไป
ส่วนร้านซีพีเฟรชมาร์ทจะเน้นสินค้าที่เป็นโฟรเซนฟูดอยู่แล้ว รวมทั้งอาหารสดและอาหารพร้อมปรุงสุกรับประทานที่ดำเนินการมาแล้ว 7 ปี ขณะที่ตู้เย็นชุมชนก็จะกระจายไปให้มากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตของลูกค้าทุกโมเดลมีการซื้อต่อเนื่องเพิ่ม 5 รายต่อสัปดาห์ หรือเพิ่มขึ้น 10% จากเดิม และมีแผนเพิ่มรายการสินค้ากลุ่มเครื่องปรุงอาหาร กลุ่มเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว เพื่อตอบสนองกลุ่มครอบครัว จากปัจจุบันมีสินค้าจำหน่าย 3 กลุ่มแบรนด์ คือ แบรนด์ซีพีเฟรชมาร์ท 40% แบรนด์ซีพี 30% และมัลติแบรนด์อีก 20% และอื่นๆ
“ที่ผ่านมาร้านซีพีเฟรชมาร์ทได้ปิดสาขาไปประมาณ 70 แห่งในช่วงปีเศษเพราะรายได้ไม่คุ้มต้นทุนเนื่องจากปัญหาทางด้านทราฟฟิก เช่น มีการสลับถนนเป็นวันเวย์ มีการสร้างสะพานลอย มีการปรับปรุงถนน เป็นต้น ทำให้ปริมาณทราฟฟิกลูกค้าลดลง แต่ตอนนี้เราปรับกลยุทธ์ปรับโมเดลใหม่จะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้น”
ส่วนตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้ได้เริ่มนำโมเดลต่างๆ ขยายไปบ้างแล้วแต่ยังไม่เต็มรูปแบบ เช่น เปิดร้านซีพีเฟรชมาร์ทที่ประเทศเวียดนาม และมาเลเซีย และอยู่ระหว่างศึกษาตลาดอีกหลายประเทศ คาดว่าจะใช้เวลาอีกประมาณ 2 ปีเพื่อความชัดเจนในการรุกตลาดรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558
