กรมการขนส่งฯ! ดีเดย์ 1 ม.ค. 57 ประกาศใช้น้ำหนักบรรทุกใหม่ จ้าง ม.นเรศวรศึกษาข้อมูลทั้งในประเทศและในกลุ่มอาเซียนเพื่อรับ AEC ให้ระบบขนส่งด้วยรถบรรทุกเหมาะสมและปลอดภัย เตือน!!! รถบรรทุกที่น้ำหนักเกินเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ หากตรวจพบจะมีความผิดโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายสมชัย ศิริวัฒนโชค อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมการขนส่งฯ ได้จัดทำโครงการศึกษาพิกัดน้ำหนักรถบรรทุก โดยว่าจ้างมหาวิทยาลัยนเรศวรเพื่อศึกษาข้อมูลรถบรรทุกในประเทศไทย รวมทั้งประเทศในกลุ่มอาเซียนเพื่อนำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการขนส่ง และกำหนดน้ำหนักรถบรรทุกที่เหมาะสมทั้งในด้านความปลอดภัย ด้านเศรษฐศาสตร์ และระบบลอจิสติกส์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพฤศจิกายน 2556 ซึ่งจะได้นำผลการศึกษาดังกล่าวไปกำหนดใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2557 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ จากสถิติการจดทะเบียนรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกสะสม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2556 พบว่ามีรถบรรทุกจำนวน 927,441 คัน เป็นรถบรรทุกส่วนบุคคลจำนวน 713,713 คัน และรถบรรทุกไม่ประจำทางจำนวน 213,728 คัน ในจำนวนนี้ มีรถบรรทุกส่วนหนึ่งทำการบรรทุกสิ่งของที่มีน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ส่งผลให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้งานเกินสมรรถนะทำให้การทำงานของระบบเบรก ระบบช่วงล่างต่างๆ มีประสิทธิภาพลดลง ส่งผลต่อการเสียสมดุลของรถในขณะขับขี่ และยากต่อการควบคุมรถ
นอกจากการตรวจเข้มรถบรรทุกมิให้บรรทุกน้ำหนักเกินกำหนดแล้ว กรมการขนส่งฯ ยังได้กำหนดให้รถโดยสารสาธารณะ (นำร่องเฉพาะรถโดยสารประจำทางของ บขส.ที่วิ่งระหว่าง กทม.ไปยังต่างจังหวัด) และรถบรรทุกวัตถุอันตรายต้องติดตั้งระบบ GPS เพื่อให้สามารถติดตาม ควบคุม กำกับดูแลพนักงานขับรถไม่ให้ขับเร็วเกินกำหนด และควบคุมชั่วโมงการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยกำหนดให้รถโดยสารประจำทางของ บขส. ดังกล่าวซึ่งมีอยู่ประมาณ 800 คันต้องเริ่มติดตั้ง GPS มาตั้งแต่ 1 มกราคมที่ผ่านมานั้น จนถึงขณะนี้ได้มีการทยอยติดตั้งไปแล้ว 731 คัน ที่เหลือเป็นรถเก่าซึ่งจะมีการเปลี่ยนเป็นรถใหม่ทั้งหมดและจะทำการติดตั้ง GPS ให้เรียบร้อยทุกคัน ส่วนการติดตั้งเครื่อง GPS ในรถบรรทุกวัตถุอันตรายจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ได้มีรถบรรทุกวัตถุอันตรายติดตั้ง GPS ถึงจำนวน 705 คันแล้ว