เรกูเลเตอร์รายงาน”พงษ์ศักดิ์” พร้อมดึงเงินคอลแบ็กเบรกค่าไฟงวดหน้า(ก.ย.-ธ.ค.) ที่คาดว่าจะขึ้นกว่า 2 สตางค์ต่อหน่วยหวังตรึงค่าไฟช่วยรัฐบาลดูแลค่าครองชีพประชาชนประคองเศรษฐกิจครึ่งปีหลังซบเซา “เสี่ยเพ้ง”เตรียมถกหามาตรการรับมือศก.ร่วมนายกฯวันนี้รับน้ำมันทิศทางขึ้นแต่รัฐยังดูแลตรึงดีเซลไม่เกิน 30 บ./ลิตร
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) เปิดเผยภายหลังการเข้าพบนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานเมื่อ 11 ก.ค.ว่า ได้รายงานถึงทิศทางค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ Ft ที่จะเรียกเก็บในรอบก.ย.-ธ.ค. 56 มีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นจากปัจจัยหลักค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ส่วนราคาก๊าซธรรมชาติค่อนข้างทรงตัวโดยคาดว่า Ft จะปรับขึ้นประมาณกว่า 2 สตางค์/หน่วย อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลต้องการจะดูแลเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่คาดว่าจะชะลอตัวก็สามารถที่จะตรึงค่า Ft ดังกล่าวได้
ทั้งนี้การตรึงค่า Ft สามารถนำเงินเงินที่เรียกคืนจาก 3 การไฟฟ้าในส่วนที่ไม่ได้ลงทุนจริงในช่วงปี"51-53 (คอลแบ็ก) 9,000 ล้านบาทที่ยังเหลืออยู่ 2,000 ล้านบาทมาดูแลได้โดย Ft ที่จะขึ้นกว่า 2 สตางค์ต่อหน่วยนั้นใช้เงินตรึงเพียง 900-1,000 ล้านบาทเท่านั้น
“ เดิมเราก็ตั้งใจว่าอยากให้ค่าไฟได้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงเพื่อกันเงินที่เหลือไว้ดูแลช่วงค่าไฟขึ้นสูงผิดปกติจริงๆแต่เห็นว่าเศรษฐกิจครึ่งปีหลังรัฐบาลเองก็เป็นห่วงว่าจะชะลอตัวตามที่หลายฝ่ายได้ประเมินและปรับลดประมาณการเติบโตเศรษฐกิจหรือจีดีพีเฉลี่ย 4-5% ค่าไฟที่ตรึงก็จะช่วยค่าครองชีพประชาชนได้”แหล่งข่าวกล่าว
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานเรกูเลเตอร์กล่าวว่า ค่า Ft มีแนวโน้มจะขึ้นเล็กน้อยเพราะค่าเงินบาทแข็งค่าแต่ตัวเลขจะต้องดูให้ชัดเจนอีกครั้งซึ่งการจะดูแลค่าไฟให้กับประชาชนนั้นคงจะอยู่ที่นโยบายรัฐ
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ(เวิร์คช็อป) ด้านเศรษฐกิจเพื่อติดตามสถานการณ์ภารวมเศรษฐกิจของประเทศและหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน วันที่ 12 ก.ค. กระทรวงพลังงานจะรายงานถึงแนวโน้มและทิศทางราคาพลังงานภาพรวมส่วนมาตรการดูแลจะออกมาอย่างไรก็อยู่นายกฯจะตัดสินใจดำเนินการ โดยยอมรับว่าทิศทางราคาน้ำมันครึ่งปีหลังมีแนวโน้มสูงขึ้นโดยเฉพาะระยะสั้นจากกรณีความไม่สงบในอียิปต์ แต่รัฐบาลก็ยังดูแลส่วนของราคาดีเซลที่จะไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตรจนถึงสิ้นปี