ต้อนรับรัฐบาลใหม่"กบง."เคาะปรับโครงสร้างราคาน้ำมันทั้งระบบรับลูก"คสช." จัดระเบียบภาษีสรรพสามิต กองทุนน้ำมันฯ ใหม่ส่งผลให้ราคาขายปลีกเบนซิน แก๊สโซฮอล์ลดลงถ้วนหน้าเบนซิน 95 จัดหน้กลด3.89 บาทต่อลิตร เว้นอี85 คงเดิม สว่นดีเซลเพิ่มขึ้นจิ๊บจ๊อย 0.14บาทต่อลิตรราคากลับไปที่29.99บาทต่อลิตรมีผล29ส.ค. ขณะที่เรกูเลเตอร์เคาะตรึงค่าไฟงวดใหม่ก.ย.-ธ.ค.57
นายชวลิต พิชาลัย ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนพลังงาน(สนพ.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน(กบง.)ที่มีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานว่า กบง.มีมติเห็นชอบปรับโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดใหม่ตามนโยบายคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) โดยมีมติให้ปรับอัตราจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่ซึ่งจะมีผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน 95 ลดลง 3.89 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 ลดลง 2.13 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 ลดลง 1.70 บาทต่อลิตร อี20 ลดลง1 บาทต่อลิตร อี 85 คงเดิมและดีเซลปรับขึ้นเล็กน้อย 0.14 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.57
"สำหรับโครงสร้างน้ำมันมีการปรับลดภาษีสรรพสามิตและกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในบางงประเภทโดยเฉพาะกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ยกเว้นดีเซล เพิ่มการเก็บภาษีสรรพสามิต 0.75 บาทต่อลิตรจากเดิมที่เก็บเพียง 0.005 บาทต่อลิตรเป็นจัดเก็บที่ 0.75บาทต่อลิตร เพิ่มภาษีเทศบาล 0.075 บาทต่อลิตรเป็น 0.075บาทต่อลิตร ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.55 บาทต่อลิตรเหลือจัดเก็บ 1บาทต่อลิตรทำให้ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้น 0.14 บาทต่อลิตรโดยราคาใหม่จะอยู่ที่ 29.99 บาทต่อลิตร"นายชวลิตกล่าว
ผลดังกล่าวจะทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลง 1,109 ล้านบาท/เดือน
จากเดิมที่มีรายรับ 3,557 ล้านบาท/เดือน เหลือเป็น 2,448 ล้านบาท/เดือนส่วนรายได้ที่เกี่ยวกับภาษีสรรพสามิตที่จะหายไปหรือเพิ่มขึ้นอย่างไรขณะนี้คงตอบไม่ได้เพราะจะต้องรอให้กระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงานไปตรวจเช็คสต็อกน้ำมันก่อน"ผอ.สนพ.กล่าว
นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(เรกูเลเตอร์) กล่าวว่า เรกูเลเตอร์ได้พิจารณาอัตราค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติหรือ เอฟทีงวดใหม่ที่จะเก็บในบิลค่าไฟประชาชนรอบก.ย.-ธ.ค.57 หากพิจารณาตามต้นทุนที่แท้จริงต้องเพิ่มขึ้น 2.66 สตางค์ต่อหน่วยเป็นจัดเก็บ 71.66 สตางค์ต่อหน่วย แต่เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนจึงมีมติให้ตรีงค่าเอฟทีไว้เดิมที่ 69 สตางค์ต่อหน่วย
" งวดที่แล้วกฟผ.รับภาระไว้ 2,942 ล้านบาทแต่ล่าสุดเหลือภาระเพียง 1,426 ล้านบาทจึงให้กฟผ.แบกรับภาระส่วนนี้ไปต่อซึ่งเห็นว่าไม่มาก โดยต้นทุนก๊าซไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น ทำให้ต้นทุนค่าไฟไม่ได้สูงขึ้นมาก ส่วนค่าไฟงวดใหม่ปีหน้ายังไม่ได้มีการประเมิน"นายวีระพลกล่าว