“ซีพีเอฟ” ร่วมลดโลกร้อน นำผลิตภัณฑ์กว่า 100 รายการ ติดฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท ยอมรับแนวโน้มของผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับฉลากคาร์บอนสูงขึ้นมาก การผลิตสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตในระดับต่ำ เพื่อแสดงความร่วมมือในการลดภาวะโลกร้อนจึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ผู้นำในธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหาร ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ “ภาวะโลกร้อน” ที่ส่งผลต่อสภาพภูมิอากาศแปรปรวนในปัจจุบัน เดินหน้าโครงการ “คาร์บอนฟุตพริต์” อย่างต่อเนื่อง ร่วมรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สู่การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ล่าสุด ผลิตภัณฑ์จากซีพีเอฟ และธุรกิจอาหารในเครือซีพีได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ถึง 133 รายการ ครอบคลุมสินค้าที่จำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศเพื่อก้าวสู่ “ครัวของโลก”
น.ส.กุหลาบ กิมศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สำนักระบบมาตรฐานสากล บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ กล่าวว่า “ซีพีเอฟ ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมผ่านโครงการที่หลากหลาย หนึ่งในโครงการที่ซีพีเอฟได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ก็คือ การจัดทำฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ โดยได้พัฒนาบุคลากรในองค์กรให้มีความเชี่ยวชาญจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ทวนสอบคาร์บอนฟุตพรินต์ขององค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) และใช้โปรแกรมสำเร็จรูปด้าน Life-cycle assessment (LCA) ที่ทันสมัยในการคำนวณคาร์บอนฟุตพรินต์ จึงมั่นใจว่าผลการคำนวณมีความถูกต้องแม่นยำ และสามารถตรวจสอบได้ ผลิตภัณฑ์ทุกรายการที่จัดทำฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ได้รับการขึ้นทะเบียนจาก อบก.
ปัจจุบัน ซีพีเอฟ และธุรกิจอาหารในเครือซีพี มีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์ ทั้งสิ้น 133 รายการ ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์กลุ่มเนื้อสด ผลิตภัณฑ์แปรรูป และอาหารพร้อมบริโภคที่ผลิตจากไก่ กุ้ง และสุกร เช่น เกี๊ยวกุ้ง ไก่ย่างเทอริยากิ ไก่สดซีพี รวมทั้งครอบคลุมสินค้าที่จำหน่ายทั้งใน และต่างประเทศ โดยบริษัทเตรียมขยายโครงการคาร์บอนฟุตพรินต์ไปยังผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อมุ่งลดภาวะโลกร้อน และพร้อมปรับตัวสู่การดำเนินธุรกิจแบบคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Economy) ในอนาคต รวมทั้งการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มของผู้บริโภคจะให้ความสำคัญกับฉลากคาร์บอนสูงขึ้นมาก การผลิตสินค้าที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการผลิตในระดับต่ำ เพื่อแสดงความร่วมมือในการลดภาวะโลกร้อน จึงได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากองค์กรผู้ผลิต และผู้บริโภค นอกจากจะส่งผลให้ผู้ผลิตหันมาใส่ใจต่อกระบวนการผลิตที่ลดการใช้พลังงาน และดูแลสิ่งแวดล้อมให้มากขึ้นแล้ว ยังเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้บริโภคในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีส่วนร่วมในการลดภาวะโลกร้อน
ซีพีเอฟ ได้เข้าร่วมโครงการคาร์บอนฟุตพรินต์ ตั้งแต่ปี 2551 ตามมาตรฐานคาร์บอนฟุตพรินต์ของสหราชอาณาจักร (PAS : 2050) ซึ่งผลิตภัณฑ์ในโครงการ คือ Chicken Snack จำหน่ายในเทสโก้ ต่อมา ในปี 2552 ได้เข้าร่วมโครงการนำร่องกับ อบก. ซึ่งเป็นผู้ผลิตไก่รายแรกของโลกที่ได้ฉลากคาร์บอนฟุตพรินต์