“พงษ์ศักดิ์” ย้ำรัฐบาลจะดูแลราคาดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาท/ลิตรจนถึงสิ้นปี “กบง.” ลดเงินดีเซลเข้ากองทุนน้ำมันฯ 0.40 บาท/ลิตร เบรกขึ้นราคาหลังน้ำมันโลกพุ่งจากความวิตกสถานการณ์ในอียิปต์ รับราคาแนวโน้มแพงแต่ไม่กระทบจัดหาแน่ เหตุไทยพึ่งน้ำมันตะวันออกกลางเป็นหลัก
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 8 ก.ค.ว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบดูไบครึ่งปีหลังของปีนี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับสูงเฉลี่ยที่ 100-105 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงที่จะดูแลเศรษฐกิจโดยตรึงราคาดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึงสิ้นปีนี้ และต้นปี 2557 คาดว่าจะทยอยการปรับขึ้นราคาเพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง
สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในอียิปต์หากจนถึงขั้นวิกฤตจนกระทบการขนส่งน้ำมันในคลองสุเอซนั้นไทยจะไม่มีผลกระทบรุนแรงถึงขั้นขาดแคลนน้ำมันหรือการจัดหาเนื่องจากไทยซื้อน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางเป็นหลัก แต่จะได้รับผลกระทบในแง่ของราคาน้ำมันที่อาจจะแพงขึ้น
ทั้งนี้ กรณีอียิปต์ทำให้ราคาน้ำมันช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับขึ้น โดยวันที่ 5 ก.ค.ดูไบขึ้น 2.74 เหรียญต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 101.75 เหรียญต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับการประชุม กบง.ครั้งก่อนที่อ้างอิงราคาปิดตลาดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. เบนซินอยู่ที่ 120 เหรียญต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้น 3.05 เหรียญต่อบาร์เรล ดีเซลอยู่ที่ 122.83 เหรียญต่อบาร์เรล ปรับขึ้น 2.63 เหรียญต่อบาร์เรล ทำให้ค่าการตลาดดีเซลของผู้ค้าอยู่ที่ 1.10 บาทต่อลิตรเท่านั้น กบง.จึงเห็นชอบลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับดีเซล 0.40 บาทต่อลิตรเพื่อคงราคาขายปลีกดีเซลที่ 29.99 บาทต่อลิตร ส่วนเบนซินอยู่ที่ผู้ค้าจะพิจารณา
“การลดเงินดังกล่าวทำให้กองทุนน้ำมันฯ มีรายรับลดลงจากเดิมวันละ 118 ล้านบาทเป็นวันละ 94 ล้านบาท และปัจจุบันฐานะกองทุนน้ำมันสุทธิเป็นบวกอยู่ที่ 4,100 ล้านบาท” นายพงษ์ศักดิ์กล่าว