สยามดนตรียามาฮ่ารุกคว้าสิทธิ์จำหน่ายเปียโนระดับโลกเบเซนดอร์เฟอร์ (Bӧsendorfer) พร้อมนำเข้าสินค้าลิมิเต็ดเอดิชันตอบสนองความต้องการลูกค้าระดับไฮเอนด์ เริ่มจากรุ่นฮัมมิงเบิร์ด 1 ใน 9 หลังทั่วโลก สนนราคา 5.5 ล้านบาท พร้อมเร่งขยายเครือข่ายโรงเรียนดนตรีสยามกลการทั่วประเทศ 100 สาขาภายใน 2 ปี มั่นใจเติบโตปีนี้ไม่น้อยกว่า 15% หลังปีล่าสุดรับรู้รายได้ 1,500 ล้านบาท
นางสาวประนัปดา พรประภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามดนตรียามาฮ่า จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ยามาฮ่า คอร์เปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อกิจการเปียโนระดับไฮเอนด์จากประเทศออสเตรีย ยี่ห้อเบเซนดอร์เฟอร์ (Bӧsendorfer) ในตลาดโลก ทำให้สิทธิ์การจำหน่ายในประเทศไทยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ ในฐานะตัวแทนจำหน่ายเปียโนยามาฮ่า ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมที่จะเดินหน้าทำตลาดสินค้าดังกล่าวนับจากนี้
บริษัทฯ จะเน้นการนำเข้าสินค้าระดับไฮเอนด์เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าระดับพรีเมียมที่มีความแตกต่างและชื่นชอบในศิลปะ เนื่องจากเบเซนดอร์เฟอร์ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตเปียโนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่สุดในโลกกว่า 185 ปี มีเอกลักษณ์ในเรื่องของเสียงที่กังวานและไพเราะ โดยมีแผนนำเข้าสินค้ากลุ่มลิมิเต็ดเอดิชัน หรือสเปเชียลโมเดลที่มีการผลิตจำนวนจำกัด หรือมีความโดดเด่นโดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น เปียโนรุ่นกุสตาฟ คลิมต์ (Gustav Klimt) ฟรานซ์ ลิซต์ แอนนิเวอร์ซารี (Franz Liszt Anniversary) โยฮันน์ สเตราส์ (Johann Strauss) ซึ่งมีการผลิตจำนวนจำกัดเพียงรุ่นละ 25 หลังทั่วโลก ขณะที่รุ่นอิมพีเรียลแกรนด์ (Imperial Grand) นั้นได้รับการยอมรับจากนักเปียโนชั้นนำระดับโลกมากมายด้วยความพิเศษของคีย์เปียโนมากถึง 97 คีย์ ให้เสียงอันเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่น เป็นต้น ก็ได้นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย
“ล่าสุดได้นำเข้าเปียโนรุ่นพิเศษ ฮัมมิงเบิร์ด (Hummingbird) ซึ่งมีการผลิตเพียง 9 หลังเท่านั้น และ 1 ใน 9 หลังนั้นก็อยู่ในประเทศไทยแล้ว จำหน่ายในราคา 5.5 ล้านบาท ซึ่งนอกจากจะเป็นรุ่นพิเศษที่ต้องใช้ความประณีตในการผลิตยาวนานกว่า 1 ปี ด้วยวิธีการแกะสลักไม้แบบโบราณอันเป็นที่ชื่นชอบของราชวงศ์และชนชั้นสูงของยุโรปแล้ว เปียโนรุ่นนี้ยังถือเป็นหลังเดียวในภูมิภาคอาเซียน และเป็นหลังที่ 3 ในเอเชีย นอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น และจีน”
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจว่าตลาดเปียโนระดับไฮเอนด์ในประเทศไทยมีแนวโน้มขยายตัวไปได้อีกมาก และได้รับการยอมรับจากนักเปียโนระดับมืออาชีพมากขึ้น การคว้าสิทธิ์จำหน่ายเปียโนเบเซนดอร์เฟอร์ทำให้สินค้ากลุ่มเปียโนที่จำหน่ายโดยโรงเรียนดนตรีสยามกลการมีความครบครันทุกกลุ่มสินค้า และสามารถตอบสนองความต้องการของนักเปียโนได้ในทุกระดับ
นอกเหนือจากการทำตลาดแบรนด์สินค้าใหม่แล้ว ในปีนี้จะเป็นปีที่โรงเรียนดนตรีสยามกลการเดินหน้าทำตลาดเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายขยายจำนวนสาขาของโรงเรียนดนตรีสยามยามาฮ่าให้ครบ 100 แห่งภายใน 2 ปี จากปัจจุบัน 88 แห่ง โดยในปีนี้จะมีการเปิดโรงเรียนเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 2 สาขา ในกรุงเทพมหานคร และมหาสารคาม ไม่รวมกับยามาฮ่า ป็อปปูลาร์ มิวสิก สกูลอีก 7 สาขา ซึ่งเน้นการสอนดนตรีสำหรับวัยรุ่นเป็นหลัก ขณะเดียวกันก็จะเน้นเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรซึ่งเป็นหลักสูตรมาตรฐานสากล การเพิ่มเติมหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ เช่น หลักสูตร JMC English Course สำหรับเด็ก ซึ่งหลักสูตรของทางโรงเรียนจะเน้นไปที่การเรียนการสอนควบคู่กับความบันเทิง (Edutainment) ซึ่งจะแตกต่างจากโรงเรียนดนตรีอื่นๆ ในประเทศไทย ที่หากไม่เน้นการศึกษาก็จะเน้นเรื่องของความบันเทิงเพียงอย่างเดียว
ในปีนี้ทางสยามดนตรียามาฮ่ายังได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันอิเลกโทนระดับเอเชียแปซิฟิก หรือ APEF (Asia Pacific Electone Festival) ซึ่งเป็นการแข่งขันสำคัญสำหรับภูมิภาคนี้อีกด้วย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
“สยามดนตรียามาฮ่าจะเน้นเรื่องการศึกษาด้านดนตรี โดยได้เป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยที่เปิดหลักสูตรด้านดนตรีเพื่อเสริมสร้างนักดนตรีคุณภาพ และเน้นไปด้านอุปกรณ์การเรียนการสอนที่เป็นมาตรฐาน ขณะที่ดีลเลอร์ของเราจะต้องผ่านการคัดเลือกด้วยกฎเกณฑ์เข้มงวดเพื่อรักษามาตรฐานทางด้านการเรียนการสอนเอาไว้ให้ดีที่สุด โดยดีลเลอร์แต่ละรายจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท”
นางสาวประนัปดากล่าวต่ออีกว่า เชื่อว่าความโดดเด่นของโรงเรียนดนตรีสยามกลการจะสามารถตอบสนองความต้องการที่แตกต่างของผู้ที่สนใจจะศึกษาด้านดนตรีในประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ เองก็อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรทั้งด้านภาพลักษณ์และการบริหารเพื่อรับมือกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยน่าจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างจริงจังภายในสิ้นปีนี้
สำหรับในปีนี้คาดว่าจะรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15% จากปี 2555 ที่ผ่านมา ซึ่งบริษัทฯ รับรู้รายได้รวมที่ 1,500 ล้านบาท ขณะที่ภาพรวมการแข่งขันนั้นมองว่าในตลาดไม่มีใครที่เป็นคู่แข่งโดยตรงกับทางโรงเรียนดนตรีสยามกลการเนื่องจากหลักสูตรการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน และเชื่อมั่นว่าโรงเรียนดนตรีสยามกลการมีศักยภาพแข็งแกร่งและพร้อมดูแลผู้ที่สนใจ ทั้งสินค้าและหลักสูตรการเรียนการสอนที่สมบูรณ์แบบในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ