“พาณิชย์” จับมือตำรวจตรวจสอบการขนย้ายสินค้าข้าวป้องกันการทุจริตโครงการรับจำนำ เน้น 7 จังหวัดติดชายแดน พบกระทำผิด 15 ราย ยึดทั้งข้าวสารและข้าวเปลือก
ตามที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการป้องกันการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในติดตามตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล และขนย้ายสินค้าเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มีการปฏิบัติตามกฎหมาย และเงื่อนไขหลักเกณฑ์ของโครงการรับจำนำที่กำหนดไว้ด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ
นางสาววิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในได้จัดเจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ (บก.ปปป.) ดำเนินการตรวจสอบการขนย้ายสินค้า ระหว่างวันที่ 2-26 พฤษภาคม 2556 ในพื้นที่ที่มีชายแดนติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้านและจังหวัดใกล้เคียงจำนวน 7 จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว จันทบุรี ชลบุรี ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา บุรีรัมย์ และนครราชสีมา
โดยตรวจสอบผู้ประกอบการที่ขนย้ายสินค้าเกษตร รวมถึงท่าข้าว โรงสีบริเวณชายแดน รวม 90 ราย พบการกระทำผิดรวมทั้งสิ้น 15 ราย โดยเป็นการกระทำความผิดขนย้ายข้าวเปลือก ข้าวสาร ออกจากพื้นที่จังหวัดควบคุมโดยไม่ขออนุญาตจำนวน 7 ราย จับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลางข้าวเปลือกจำนวน 14.25 ตัน และข้าวสาร จำนวน 336.875 ตัน รวมทั้งสิ้น 351.125 ตัน และกรณีพบการกระทำความผิดแต่ผู้ต้องหาหลบหนีจำนวน 2 ราย (2 รถพ่วง) ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ยึดของกลาง ได้แก่ ข้าวเปลือกจำนวน 36.395 ตัน และข้าวสารจำนวน 84.52 ตัน รวมทั้งสิ้นจำนวน 120.915 ตัน
นอกจากนี้ ได้ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังบูรพา เจ้าหน้าที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ในการตรวจยึดรถบรรทุกพ่วง บรรทุกข้าวสาร (ปลายข้าว) จำนวน 6 รถพ่วง โดยไม่มีใบอนุญาตขนย้ายมาแสดง จับกุมผู้ขับรถได้จำนวน 1 ราย จึงตรวจยึดของกลางรถบรรทุกพ่วงพร้อมข้าวสารน้ำหนักรวมประมาณ 180 ตัน เพื่อตรวจสอบหาผู้ขับรถเจ้าของรถ ที่มาของข้าวสาร และการขออนุญาตขนย้ายข้าวสารต่อไป
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวเพิ่มเติมว่า กรมการค้าภายในจะดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการป้องกันการลักลอบนำเข้าข้าวต่างประเทศมาสวมสิทธิ ทั้งนี้ หากพบการขนย้ายสินค้าเกษตรโดยไม่ได้รับอนุญาต เกษตรกรถูกเอารัดเอาเปรียบจากการซื้อขายสินค้าเกษตรหรือการทุจริตในรูปแบบต่างๆ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดทั่วประเทศ
