รองเลขานายกฯ เผยลงพื้นที่สอบสต๊อกข้าว พบผิดปกติ 27 จุด สั่งดำเนินคดี 4 จุด ปทุมธานี ชัยนาท สงขลา พัทลุง ให้ดีเอสไอร่วมกรมการค้าภายในสอบนครศรีธรรมราช 11 จุด ยอมรับรองปลัดคลังเปรยโกงจำนำข้าวมีส่วนจริง อ้างมีช่องว่างเกิดขึ้น อ.ต.ก.-อคส.กรมการค้าภายใน บกพร่องที่สุด
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงปริมาณข้าวคงเหลือขององค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปผลการตรวจสอบสต๊อกข้าวหลังลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกันทุกจุดทั่วประเทศ
ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.ธวัช เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบสต๊อกข้าวมีความผิดปกติ 26 จุด และพบเพิ่มเติมอีก 1 จุดที่ จ.เพชรบูรณ์ รวมเป็น 27 จุด โดยที่ประชุมมีมติให้ดำเนินคดี 4 จุด คือที่ จ.ปทุมธานี ชัยนาท สงขลา และพัทลุง ในส่วนของ จ.นครศรีธรรมราช 11 จุดที่ยังไม่มีความชัดเจน ได้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กรมการค้าภายใน ตรวจสอบใหม่อีกครั้ง ส่วนที่เหลือ 12 จุด ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร ร่วมกันตรวจสอบรายงานผลอีกครั้งหนึ่ง ในจำนวนตรงนี้ได้สั่งปิดโรงสีไม่ให้ดำเนินการรับจำนำจำนวน 8 โรง คือที่ จ.ปทุมธานี ชัยนาท ยโสธร สงขลา และพัทลุง ส่วนกรณีกองข้าวล้ม 3 โกดังที่ จ.อุทัยธานี ให้ตรวจสอบคุณภาพอีกครั้งแล้วรายงานขึ้นมาว่า เกิดจากการรมยา หรือข้าวไม่ได้คุณภาพ จากนั้นจะนำข้อมูลทั้งหมดรายงานนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายรับจำนำข้าวแห่งชาติ (กขช.)
ส่วนที่ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนนั้น พล.ต.ต.ธวัช กล่าวว่า ขั้นตอนการรับจำนำข้าวมีการทุจริตตามที่ น.ส.สุภา พูดมีส่วนจริง เริ่มแต่ขั้นตอนการลงทะเบียนเกษตร การออกใบประทวน การให้เจ้าหน้าที่รับจำนำข้าวเปลือกในพื้นที่ มีช่องว่างเกิดขึ้น เป็นความบกพร่องทุจริตในหน้าที่ของผู้ที่ปฏิบัติกับโรงสี ไม่ได้ทุจริตที่ตัวโครงการ เป็นเรื่องที่ผู้ปฏิบัติทำให้โครงการเสียหาย อยู่ที่การตรวจสอบและดำเนินคดี ทั้ง 27 จุดถ้าต้องตรวจสอบซ้ำก็ต้องตรวจสอบ
ทั้งนี้ ใน 27 จุดยังมีเอกสารอีก 12 จุดที่ยังไม่ได้ตรวจสอบและเอกสารก็มีถึง 3-4 หมื่นแผ่น ซึ่งจะเรียกมาแจงอีกครั้ง เรื่องนี้ต้องให้เวลา และต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าหน่วยงานที่บกพร่องมากที่สุดคือ อ.ต.ก. อคส.และกรมการค้าภายใน และการสอบสวนหากพาดพิงถึงใคร ถึงหน่วยไหนก็ต้องว่ากันหมด เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความชัดเจนและโปร่งใส