xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” เตรียมเปิดระบายข้าวสาร-ข้าวเปลือกกลาง ก.ค.นี้ ยันหากถูกกดราคาซื้อจะไม่ขาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” เตรียมเปิดระบายข้าวในสต๊อกกลาง ก.ค.นี้ ทั้งข้าวสารและข้าวเปลือก “นิวัฒน์ธำรง” ยันหากให้ราคาถูกเกินไปไม่ขาย เผยจำนำข้าวนาปรังที่เหลือตันละ 1.5 หมื่นบาทใช้เงินอีกแค่ 4 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า จะระบายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลโดยเปิดประมูลเป็นการทั่วไปทั้งส่งออกและขายในประเทศ คาดว่าน่าจะประมูลได้ประมาณกลางเดือน ก.ค.นี้ และข้าวเปลือกจะเปิดประมูลเพื่อให้นำไปทำข้าวนึ่งส่งออก แต่ในส่วนของข้าวเปลือกจะต้องนำคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมายืนยันเพื่อจะได้แน่ใจว่าเมื่อได้ข้าวเปลือกไปแล้วจะมีการส่งออกจริง ป้องกันปัญหาการเวียนเทียน โดยการพิจารณาขายจะดูจากราคาที่เสนอมาเป็นหลัก ต้องเป็นราคาที่สอดคล้องกับราคาตลาดและเป็นราคาที่ยอมรับได้

สำหรับการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังที่รัฐบาลให้กลับไปรับจำนำที่ตันละ 1.5 หมื่นบาทนั้นถือเป็นการช่วยเหลือเกษตรกร เพราะได้มีการขึ้นทะเบียนข้าวไว้ทั้งสิ้น 2.69 ล้านตัน หากรับจำนำทั้งหมดก็จะใช้เงินอีก 4 หมื่นล้านบาท โดยยืนยันว่าการรับจำนำข้าวจากนี้ไปจะบริหารจัดการด้วยความโปร่งใส เปิดเผย ป้องกันการทุจริตในทุกขั้นตอน โดยต่อไปจะมีการเช็กปริมาณสต๊อก สินค้าคงคลังด้วยระบบออนไลน์ที่จะต้องรู้ปริมาณสต๊อกทุกวัน ซึ่งขณะนี้ได้มีการหารือระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อจัดทำระบบออนไลน์ในการเช็กสต๊อกข้าวทุกเมล็ดแล้ว

ส่วนกรณีที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ยืนยันว่าโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดของรัฐบาลทำให้เกิดการทุจริตนั้น เห็นว่าคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ก็มีหลักของเขาในการคำนวณตัวเลข แต่รัฐบาลก็มีข้อมูลอีกชุดหนึ่งที่รวบรวมโดยนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและ รมช.เกษตรฯ ซึ่งยังเป็นตัวเลขที่ไม่ตรงกัน ส่วนที่บอกว่าโครงการนี้มีการโกงเกิดขึ้น นั่นคือข้อกล่าวหา รัฐบาลก็ต้องชี้แจงให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกัน

นายยรรยง พวงราช รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า การรับจำนำข้าวเปลือกนาปรังรอบนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.-15 ก.ย. 2556 สำหรับภาคกลาง และในส่วนของภาคใต้จะสิ้นสุดวันที่ 30 พ.ย. 2556 จะยกเลิกการให้ส่วนเพิ่ม 20% จากปริมาณข้าวที่ชาวนาแจ้งขึ้นทะเบียนเอาไว้เหมือนกับโครงการก่อน เพราะเห็นว่าอาจเป็นช่องโหว่ให้เกิดการรับจำนำข้าวในปริมาณที่มากเกินจริง เพราะการรับจำนำครั้งนี้จะต้องอยู่ในกรอบที่เกษตรกรได้ขึ้นทะเบียนไว้ คือ 2.69 ล้านตันเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น