วันนี้ (17 มิ.ย.) คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จะมีการประชุมในช่วงบ่าย หลังจากมีการประชุมไปแล้วสัปดาห์ก่อน แต่ยังไม่สามารถสรุปตัวเลขการรับจำนำที่ต่างกัน ระหว่างข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ทำหน้าที่ประสานและรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาล 2555/2556 ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ระบุว่า ข้าวเปลือกเข้าโครงการอยู่ที่ 9.9 ล้านตัน ขาดทุน 84,000 ล้านบาท พบว่ายังไม่มีการบันทึกตัวเลขที่จะนำไปคำนวณกำไร ขาดทุน อีก 2.5 ล้านตันข้าวสาร
ดังนั้น ในส่วนของตัวเลขที่ขาดทุนอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ระบุว่าอยู่ที่ 84,000 ล้านบาท หากมีการนำ 2.5 ล้านตันข้าวสาร ไปคิดคำนวณด้วยแล้ว ตัวเลขขาดทุน 84,000 ล้านบาท ก็จะลดลง และโครงการนี้จะยังเดินหน้าต่อไป เพราะยังไม่สิ้นสุดฤดูกาลรับจำนำข้าว ตัวเลขโครงการปี 2555/2556 ยังอยู่ฤดูกาลแรกเท่านั้น ตัวเลขขาดทุนจะเท่ากับโครงการปี 2554/2555 ที่คณะกรรมการปิดบัญชีฯ มีตัวเลขขาดทุน 130,000 ล้านบาท หรือไม่ ต้องรอจนกว่าจะปิดโครงการ
ในวันนี้ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จะนำตัวเลข 2.5 ล้านตันข้าวสาร ที่ยังไม่ได้มีการบันทึก นำไปคำนวณใหม่ในที่ประชุมที่มีขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการคลัง หลังจากที่ได้ตัวเลขคำนวณใหม่แล้ว ก็จะนำไปเข้าที่ประชุม กขช.ในช่วงบ่าย
นอกจากนี้ ที่ประชุม กขช.จะมีการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสม เนื่องจากกำลังจะเข้าฤดูกาลปลูกข้าวรอบใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของเกษตรกร โดยการปรับปรุงหลักเกณฑ์ต้องปิดช่องโหว่ หากให้ราคาสูงเกินไป ก็ต้องทบทวนทั้งเรื่องราคาและปริมาณ ดูราคาข้าวในตลาดโลก หากสูงขึ้นกำไรก็จะกลับคืนมา ซึ่งจะทำให้การขาดทุนลดน้อยลง หรือในอนาคต โครงการนี้อาจจะไม่ต้องมีก็ได้ หากราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น เกษตรกรก็จะไปขายกันเองโดยไม่ต้องจำนำ
ส่วนตัวเลขที่ได้และกรอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์แบบกว้างๆ จากที่ประชุม กขช. จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นข้อมูลทั้งหมดที่ได้ มีการรายงานให้เฉพาะนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข ที่ไม่สูงตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง
นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ทำหน้าที่ประสานและรวบรวมข้อมูลโครงการรับจำนำข้าว เปิดเผยข้อมูลที่ได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า โครงการรับจำนำข้าวเปลือกฤดูกาล 2555/2556 ณ วันที่ 31 มกราคม 2556 ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีรับจำนำข้าว ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ระบุว่า ข้าวเปลือกเข้าโครงการอยู่ที่ 9.9 ล้านตัน ขาดทุน 84,000 ล้านบาท พบว่ายังไม่มีการบันทึกตัวเลขที่จะนำไปคำนวณกำไร ขาดทุน อีก 2.5 ล้านตันข้าวสาร
ดังนั้น ในส่วนของตัวเลขที่ขาดทุนอนุกรรมการปิดบัญชีฯ ระบุว่าอยู่ที่ 84,000 ล้านบาท หากมีการนำ 2.5 ล้านตันข้าวสาร ไปคิดคำนวณด้วยแล้ว ตัวเลขขาดทุน 84,000 ล้านบาท ก็จะลดลง และโครงการนี้จะยังเดินหน้าต่อไป เพราะยังไม่สิ้นสุดฤดูกาลรับจำนำข้าว ตัวเลขโครงการปี 2555/2556 ยังอยู่ฤดูกาลแรกเท่านั้น ตัวเลขขาดทุนจะเท่ากับโครงการปี 2554/2555 ที่คณะกรรมการปิดบัญชีฯ มีตัวเลขขาดทุน 130,000 ล้านบาท หรือไม่ ต้องรอจนกว่าจะปิดโครงการ
ในวันนี้ คณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ จะนำตัวเลข 2.5 ล้านตันข้าวสาร ที่ยังไม่ได้มีการบันทึก นำไปคำนวณใหม่ในที่ประชุมที่มีขึ้นเมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงการคลัง หลังจากที่ได้ตัวเลขคำนวณใหม่แล้ว ก็จะนำไปเข้าที่ประชุม กขช.ในช่วงบ่าย
นอกจากนี้ ที่ประชุม กขช.จะมีการพิจารณาปรับหลักเกณฑ์ให้เหมาะสม เนื่องจากกำลังจะเข้าฤดูกาลปลูกข้าวรอบใหม่ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการตัดสินใจของเกษตรกร โดยการปรับปรุงหลักเกณฑ์ต้องปิดช่องโหว่ หากให้ราคาสูงเกินไป ก็ต้องทบทวนทั้งเรื่องราคาและปริมาณ ดูราคาข้าวในตลาดโลก หากสูงขึ้นกำไรก็จะกลับคืนมา ซึ่งจะทำให้การขาดทุนลดน้อยลง หรือในอนาคต โครงการนี้อาจจะไม่ต้องมีก็ได้ หากราคาข้าวในตลาดโลกสูงขึ้น เกษตรกรก็จะไปขายกันเองโดยไม่ต้องจำนำ
ส่วนตัวเลขที่ได้และกรอบการปรับปรุงหลักเกณฑ์แบบกว้างๆ จากที่ประชุม กขช. จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันพรุ่งนี้ เบื้องต้นข้อมูลทั้งหมดที่ได้ มีการรายงานให้เฉพาะนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยเฉพาะเรื่องตัวเลข ที่ไม่สูงตามที่ฝ่ายค้านกล่าวอ้าง