เรกูเลเตอร์เข้าชี้แจง “เสี่ยเพ้ง” ยืนยันที่เลือก “กัลฟ์” ชนะประมูลไอพีพีเพียงรายเดียว เหตุพิจารณาจากค่าไฟรวมเสนอ 6 ปีต่ำสุด 4.23 บาทต่อหน่วย ต่ำกว่ากลุ่มที่ 2 ถึง 2.90 สตางค์ต่อหน่วย ประหยัดค่าไฟตลอดสัญญาได้ถึง 3.2 หมื่นล้านบาท ส่วนไฟเสนอขายขาดไป 400 เมกะวัตต์ไม่กระทบสำรอง
นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการเข้ารายงานความคืบหน้าการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ หรือไอพีพี รอบใหม่ จากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) วันนี้ (1 ก.ค.) ว่า เรกูเลเตอร์ได้ชี้แจงประเด็นข้อสงสัยกรณีการเลือกให้ บ.กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ และ บ.มิตซุยแอนด์คัมปะนี (ไทยแลนด์) จำกัด(ในนามบ.Independent Power Development) เป็นผู้ชนะประมูลไอพีพีใน 3 ประเด็นหลัก คือ ร่างเงื่อนไขสัญญา หรือTOR ล็อกสเปกหรือไม่ หลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติมีอย่างไร และการที่ผู้ชนะประกวดได้เพียงรายเดียวด้วยเหตุใด ซึ่งทางเรกูเลเตอร์ก็ได้ชี้แจงว่าเป็นไปตามขั้นตอนและเงื่อนไข และที่เลือกรายเดียวเพราะยึดราคาค่าไฟต่ำสุดเป็นหลักทำให้ตลอดการรับซื้อไฟ 25 ปีจากกัลฟ์ฯ จะประหยัดไฟได้ 32,163 ล้านบาท
นายกวิน ทังสุพานิช เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) กล่าวว่า เอกสารรายละเอียดการยื่นประมูล หรือ RFP ที่ได้เปิดขายระหว่างวันที่ 20 ธ.ค. 55-21 ม.ค. 56 ได้กำหนดการผลิตช่วงปี พ.ศ. 2564-2569 ให้ไอพีพีจำนวนไม่เกิน 5,400 เมกะวัตต์ โดยแต่ละปีสามารถผลิตไฟเข้าระบบได้ไม่เกิน 1,250 เมกะวัตต์ โดยมีผู้ซื้อซอง 89 ราย และเข้ามาเสนอ 9 ราย โดยเกณฑ์การพิจารณาระยะแรกจะว่าด้วยเทคนิค ระยะ 2 เป็นเรื่องราคาซึ่งมีผู้ผ่านมาเสนอราคาเหลือ 6 ราย และได้คัดเลือกกลุ่มข้อเสนอราคาค่าไฟเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักภาพรวม (WALUP) 6 ปีถูก ซึ่งกัลฟ์ฯ เสนอราคาค่าไฟเฉลี่ยต่อหน่วยตลอดอายุโครงการถูกสุดคือ 4.2372 บาทต่อหน่วย ปริมาณไฟฟ้า 5,000 เมะกวัตต์
“เรามี 2 สัญญา สัญญาละ 2,500 เมกะวัตต์ในการรับซื้อ เมื่อเรานำมาจัดกลุ่มทางเลือก 4 กลุ่มก็พบว่าทางเลือกแรกคือกัลฟ์ฯ เสนอผลิต 6 โรงและครบทุกปี กำลังผลิตรวม 5,000 เมกะวัตต์ ราคาค่าไฟต่ำสุด 4.2372 บาทต่อหน่วย แม้ว่ากำลังผลิตจะขาดไป 400 เมกะวัตต์ก็เห็นว่าไม่ได้กระทบต่อความมั่นคงภาพรวม ขณะที่ทางเลือกกลุ่มที่ 2 เป็นการรวมผู้เสนอมาจัดเข้าระบบ คือ บ.คลองหลวง บมจ.โกลว์ และกัลฟ์ฯ ค่าไฟเฉลี่ยอยู่ที่ 4.266 บาทต่อหน่วย สูงกว่าทางเลือกแรก 2.90 สตางค์ต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่า 32,163 ล้านบาท เสนอผลิตไฟ 5,475 เมกะวัตต์ สูงกว่าเป้าหมาย 75 เมกะวัตต์ ส่วนทางเลือกที่ 3 ค่าไฟแพงกว่า 3.14 สตางค์ต่อหน่วย และทางเลือกที่ 4 แพงกว่า 5.39 สตางค์ต่อหน่วย หรือคิดเป็นเงินถึง 5.9 หมื่นล้านบาท” นายกวินกล่าว
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธานเรกูเลเตอร์ กล่าวว่า กรณีมีผู้ร้องเรียนและยื่นคำร้องอุทธรณ์การคัดเลือกไอพีพีได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาแล้ว โดยคาดว่าจะสามารถสรุปได้เร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม ข้อกฎหมายที่เขียนไว้การยื่นอุทธรณ์ไม่ถือว่าเป็นการทุเลาการดำเนินงานพิจารณาใดๆ
