“เต้น” ขู่จะเน้นตรวจโรงสีที่เคยถูกแบล็กลิสต์ 99 โรงเป็นพิเศษ หวั่นโกงซ้ำรอยโรงสีพิจิตร ยันไม่ใช่เพิ่งมาตรวจสต๊อกช่วงนี้ แต่ทำมาตลอด
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การตรวจสอบสต๊อกข้าวที่เก็บไว้ที่โรงสี โกดังกลาง จะเริ่มดำเนินการพร้อมกันในวันที่ 29 มิ.ย. 2556 ทั้ง 1,600 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งยืนยันได้ว่าตั้งแต่เปิดโครงการรับจำนำมาไม่ใช่เพิ่งจะมานึกตรวจสอบในครั้งนี้ แต่ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตรวจสอบมาโดยตลอด ทั้งการตรวจของกระทรวงพาณิชย์ ระดับจังหวัด และชุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และได้มีการดำเนินคดีต่อผู้ที่กระทำผิดอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ผลการตรวจสอบอย่างเข้มงวด พบว่าในปี 2555 มีคดีเกี่ยวกับการรับจำนำข้าวทั่วประเทศรวม 115 คดี เป็นการกระทำผิดหลักเกณฑ์จำนำข้าว 98 คดี และลักลอบขนข้าว 17 คดี โดยมีปริมาณข้าวที่เสียหาย 3.2 หมื่นตัน มูลค่าความเสียหาย 541 ล้านบาท และปี 2556 มี 59 คดี ผิดหลักเกณฑ์จำนำข้าว 55 คดี และลักลอบขนข้าว 4 คดี โดยมีปริมาณข้าวที่เสียหาย 4.2 ล้านตัน มูลค่าความเสียหาย 79.8 ล้านบาท ซึ่งคดี ปริมาณ และมูลค่าความเสียหายลดลงต่อเนื่องเพราะความเข้มงวดในการตรวจสอบ
“การตรวจสอบครั้งนี้จะได้รู้ปริมาณที่แท้จริงว่ามีเท่าไร และจะดูคุณภาพข้าวไปพร้อมๆ กันด้วย ซึ่งในวันดีเดย์ช่วงเย็นหรือค่ำๆ จะปรากฏข้อมูลทั้งหมด”
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบสต๊อกข้าวในครั้งนี้ได้ขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าตรวจสอบว่าโรงสีที่เคยถูกขึ้นบัญชีดำ (แบล็กลิสต์) ทั้งกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จำนวน 99 ราย มีบริษัทไหนเปลี่ยนชื่อ มีที่ตั้งที่เดิม หรือมีกรรมการจากโรงสีที่ถูกแบล็กลิสต์ไปอยู่โรงสีไหนก็จะตรวจโรงสีนั้นเป็นพิเศษเพราะเป็นกลุ่มเฝ้าระวัง หากตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตก็จะให้ยุติการรับจำนำข้าวในทันที เพราะโรงสีที่พิจิตรที่พบการทุจริตก็เป็นโรงสีที่มีการเปลี่ยนชื่อ และเคยถูกแบล็กลิสต์มาก่อนหน้านี้