xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” สแกน 5 จังหวัดท่องเที่ยว พบหัวแดงจ้างหัวดำทำธุรกิจ 471 ราย เตรียมดำเนินคดีตามกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ตรวจ 5 จังหวัดท่องเที่ยว พบนอมินี 471 ราย สารภาพทันที 14 ราย ส่งดีเอสไอดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ส่วนที่เหลือรอตรวจสอบเพิ่มก่อนฟัน พร้อมตรวจเพิ่มที่เชียงใหม่ เชียงราย พบเข้าข่าย 77 ราย

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการตรวจสอบการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว (นอมินี) ตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 ใน 5 จังหวัดท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ ประจวบคีรีขันธ์ ชลบุรี และสุราษฎ์ธานี ว่า ได้ตรวจสอบพบกลุ่มธุรกิจที่เข้าข่ายจำนวน 706 บริษัท และเมื่อตรวจสอบลงลึกพบว่า 131 บริษัทไม่เข้าข่ายถือหุ้นแทนคนต่างด้าว แต่อีก 471 บริษัทเข้าข่ายถือหุ้นแทนคนต่างด้าว

ทั้งนี้ ในจำนวน 471 บริษัทพบว่ามี 14 บริษัทได้รับสารภาพว่ากระทำการถือหุ้นแทนคนต่างด้าว โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะส่งข้อมูลให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ทำการตรวจสอบเรื่องเอกสารเพื่อส่งฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง และขายอาหาร มีบุคคลที่เข้าข่ายความผิด 33 ราย และนิติบุคคล 14 คณะ โดยจะมีความผิดตามกฎหมายต่างด้าว คือ จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับ 1 แสนบาทถึง 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ส่วนอีก 362 บริษัท แม้จะมีพฤติกรรมเข้าข่ายนอมินีแต่ไม่ได้ประกอบธุรกิจตามบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจคนต่างด้าว ได้ส่งเรื่องให้กรมที่ดินดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายของกรมที่ดิน และอีก 104 บริษัทน่าจะเข้าข่ายการถือหุ้นแทน เพราะไม่มีการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐในการส่งข้อมูลชี้แจง ซึ่งกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเข้าไปตรวจสอบต่อไป

นอกจากนี้ยังได้ตรวจสอบเพิ่มเติมในอีก 2 จังหวัดท่องเที่ยว คือ เชียงใหม่ และเชียงราย เบื้องต้นพบธุรกิจที่เข้าข่ายกระทำความผิด 77 ราย แบ่งเป็นเชียงใหม่ 52 ราย และเชียงราย 25 ราย โดยในจำนวน 77 รายไม่เข้าข่ายถือหุ้นแทนคนต่างด้าว 49 ราย และถือหุ้นแทนอีก 17 ราย ส่วนอีก 9 รายไม่พบที่ตั้งของบริษัท เมื่อตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทนอกพื้นที่ประกอบธุรกิจ โดยมีการจดทะเบียนที่เชียงใหม่ 2 ราย กรุงเทพฯ 4 ราย และแม่ฮ่องสอน 1 ราย

อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือเพิ่มเติมว่าจะสุ่มตรวจนอมินีในพื้นที่ใดอีก ซึ่งต้องการให้ตรวจสอบครอบคลุมทั้งประเทศ โดยต้องการให้ธุรกิจประกอบกิจการอย่างถูกต้อง ไม่เอาเปรียบคนไทย ส่วนที่ตรวจสอบและพบการกระทำผิดจะต้องรอศาลตัดสินถึงจะดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ส่วนบริษัทใหญ่ๆ ที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีการถือหุ้นแทนนั้น ต้องรอให้มีผู้ร้องเรียนเพิ่มเติมเข้ามาก่อน ขณะนี้ได้ดำเนินการตรวจสอบบริษัทรายใหญ่ไปบางส่วนแล้ว ซึ่งยืนยันว่าการตรวจสอบจะปฏิบัติเท่าเทียมกันไม่ว่ารายเล็กหรือรายใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น