ดีเอสไอลงพื้นที่ภูเก็ต เตรียมเช็กบิลนายทุนต่างชาติ กรณีแสวงหาประโยชน์ธุรกิจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต
สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการในท้องถิ่นออกมาเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการกับบริษัทต่างชาติชาวรัสเซีย ซึ่งแย่งอาชีพคนในพื้นที่หาดกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต และพื้นที่หาดบางเทา อำเภอถลาง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 ณ อบต.เชิงทะเล โดยได้ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ประกอบการ บริเวณหาดบางเทา และได้ประสานขอข้อมูลบริษัทท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวบุคคลต่างด้าวและบุคคลที่เป็นนอมินีอาจเข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 8(3) ซึ่งมีบทลงโทษตาม ม.36 และ ม.37 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 1,000,000 บาท เนื่องจากพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นความผิดตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องกำหนดรายชื่อกฎหมายในความรับผิดชอบของสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 (เพิ่มเติม)
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (24 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 นายอุดม เพชรครุฑ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาคใต้ พ.ต.ท.นิมิตร พรหมมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อพบปะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน และสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลในพื้นที่ รวมทั้งสอบสวนปากคำบุคคล และได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและเอกสารประกอบการสืบสวน กรณีกลุ่มทุนชาวต่างชาติ ซึ่งมีนักลงทุนชาวรัสเซียและเกาหลีใต้ เข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรประเภท นำเที่ยว เช่าที่พัก เช่ารถ ร้านอาหาร ซักรีด นวดแผนไทย และธุรกิจสปา โดยมีการว่าจ้างให้ชาวไทยเป็นนอมินี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า มีผู้ประกอบธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตกว่า 3,000 ราย ซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ในวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เชิญนายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายกเทศมนตรีตำบลเชิงทะเล ผู้แทนจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกิจจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มแท็กซี่ของตำบลกะรน และตำบลเชิงทะเล เข้าร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูล ณ อบต.เชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามกรณีดังกล่าว
สืบเนื่องจากมีผู้ประกอบการในท้องถิ่นออกมาเรียกร้องให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดำเนินการกับบริษัทต่างชาติชาวรัสเซีย ซึ่งแย่งอาชีพคนในพื้นที่หาดกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต และพื้นที่หาดบางเทา อำเภอถลาง โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2556 ณ อบต.เชิงทะเล โดยได้ลงตรวจสอบข้อเท็จจริงจากผู้ประกอบการ บริเวณหาดบางเทา และได้ประสานขอข้อมูลบริษัทท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เนื่องจากกรณีดังกล่าวบุคคลต่างด้าวและบุคคลที่เป็นนอมินีอาจเข้าข่ายมีความผิดตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 มาตรา 8(3) ซึ่งมีบทลงโทษตาม ม.36 และ ม.37 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับตั้งแต่ 100,000 ถึง 1,000,000 บาท เนื่องจากพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เป็นความผิดตามบัญชีท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ.2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งประกาศกรมสอบสวนคดีพิเศษ เรื่องกำหนดรายชื่อกฎหมายในความรับผิดชอบของสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 (เพิ่มเติม)
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (24 เม.ย.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 นายอุดม เพชรครุฑ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิเศษภาคใต้ พ.ต.ท.นิมิตร พรหมมา พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ลงพื้นที่ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อพบปะประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและความเดือดร้อน และสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลและความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลในพื้นที่ รวมทั้งสอบสวนปากคำบุคคล และได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลและเอกสารประกอบการสืบสวน กรณีกลุ่มทุนชาวต่างชาติ ซึ่งมีนักลงทุนชาวรัสเซียและเกาหลีใต้ เข้ามาแสวงหาประโยชน์โดยการประกอบธุรกิจท่องเที่ยวครบวงจรประเภท นำเที่ยว เช่าที่พัก เช่ารถ ร้านอาหาร ซักรีด นวดแผนไทย และธุรกิจสปา โดยมีการว่าจ้างให้ชาวไทยเป็นนอมินี นอกจากนี้ยังมีข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า มีผู้ประกอบธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตกว่า 3,000 ราย ซึ่งมีชาวต่างชาติเป็นผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ ในวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษได้เชิญนายกสมาคมท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นายกเทศมนตรีตำบลกะรน นายกเทศมนตรีตำบลเชิงทะเล ผู้แทนจากสำนักงานจัดหางานจังหวัดภูเก็ต ผู้แทนจากสำนักงานพัฒนาธุรกิจจังหวัดภูเก็ต และกลุ่มแท็กซี่ของตำบลกะรน และตำบลเชิงทะเล เข้าร่วมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูล ณ อบต.เชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามกรณีดังกล่าว
