เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2556 นายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) และ ดร.เหงียน แท็ง หมี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มิลาน กรุ๊ป ได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการแต่งตั้งให้ บมจ.ล็อกซเล่ย์เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย โดยมีนายฟิลิป คาลเวิร์ท เอกอัครราชทูตแคนาดาประจำประเทศไทย และนายโง ดึ๊ก ถัง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทย พร้อมด้วยนายธงชัย ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ ให้เกียรติร่วมเป็นพยานในพิธี
ดร.เหงียน แท็ง หมี เปิดเผยว่า มิลาน กรุ๊ปเป็นผู้นำด้านการผลิตวัสดุในอุตสาหกรรมการพิมพ์และบรรจุภัณฑ์คุณภาพสูง เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม บริษัทฯ ให้ความสำคัญมากเรื่องการวิจัยและพัฒนา จุดเด่นของมิลานจึงอยู่ที่มีนวัตกรรมเป็นของตนเอง บริษัทแม่ของมิลานกรุ๊ปอยู่ที่ประเทศแคนาดา และไปตั้งฐานการผลิตที่เวียดนาม มีโรงงานตั้งอยู่ที่จังหวัด จร่า วิน ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ไปทางใต้ 120 กม. โรงงานแห่งนี้เป็นแห่งเดียวในเอเชียและเป็นแห่งที่ 4 ของโลกที่ได้รับใบอนุญาต (Filling License) ให้ผลิตหมึกและบรรจุหมึกในตลับภายใต้เครื่องหมายการค้าของ Hewlett-Packard หรือ HP
ทั้งนี้ มิลาน กรุ๊ปสามารถครองส่วนแบ่งการตลาดในเวียดนามได้ถึง 65% โดยผลิตภัณฑ์ของมิลานร้อยละ 70 ส่งออกไปยังประเทศต่างๆ กว่า 34 ประเทศทั่วโลก สำหรับภูมิภาคเอเชียบริษัทฯ ได้เข้าไปทำตลาดแล้ว เช่น กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินเดีย ฯลฯ เป็นต้น โดยในส่วนของประเทศไทย บริษัทฯ ได้จับมือกับล็อกซเล่ย์ให้เป็นผู้แทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ซึ่งเชื่อมั่นว่าล็อกซเล่ย์จะสามารถเปิดตลาดสินค้าของมิลานในประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายได้ เพราะไทยถือเป็นตลาดสำคัญที่มีอัตราการเติบโตสูงมาก
ด้านนายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กล่าวว่า ล็อกซเล่ย์จะทำหน้าที่ดูแลด้านการตลาดและการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศไทยทั้งหมดให้มิลาน ซึ่งผลิตภัณฑ์ของมิลานมีคุณภาพสูงในราคาที่เหมาะสมสามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้จะแบ่งตลาดออกเป็น 2 ส่วน คือ ตลาดด้านวัสดุการพิมพ์ และตลาดบรรจุภัณฑ์ ในส่วนของตลาดวัสดุการพิมพ์ ช่วงแรกบริษัทฯ จะใช้กลยุทธ์เจาะกลุ่มฐานลูกค้าเดิมที่มีอยู่ ซึ่งล็อกซเล่ย์มีฐานลูกค้าเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ที่เป็นพวกโรงพิมพ์ต่างๆ อยู่แล้ว ขณะที่ตลาดบรรจุภัณฑ์ ล็อกซเล่ย์ก็มีเครือข่ายลูกค้าและคู่ค้าที่จะสามารถเข้าไปนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตนมสดหนองโพ กรีนนัท น้ำมันพืชกุ๊ก
สำหรับผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์มิลานที่จะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมี 4 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มแผ่นพิมพ์ CTP (Computer to Plate) มีจุดเด่นที่คุณภาพสูงในราคาที่แข่งขันได้ ผลิตโดยใช้อะลูมิเนียมของซูมิโตโมจากญี่ปุ่น ทำให้ผิวของแผ่นเพลตมีความเรียบสม่ำเสมอ ช่วยให้คุณภาพงานพิมพ์คมชัดสูง ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้บริษัทฯ จะทำตลาดตรงเจาะถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย และขายผ่านดีลเลอร์รายใหญ่ๆ ที่มีอยู่ 2-3 ราย ตั้งเป้ายอดขาย 100 ล้านบาท หรือคิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 10% ของมูลค่าตลาดรวม 1,000 ล้านบาท
ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 2 เครื่องพิมพ์สำหรับบรรจุภัณฑ์ (Printer for Packaging) ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์สำหรับพิมพ์วันเดือนปีผลิต วันหมดอายุ บาร์โค้ด คิวอาร์โค้ด ฯลฯ จุดเด่นของผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้คือ มีขนาดเล็กกะทัดรัด แข็งแรงทนทานเพราะทำด้วยโลหะ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างมิลานกรุ๊ปกับ HP ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์
กลุ่มที่ 3 หมึกพิมพ์แบบต่อเนื่อง หรือ CIJ (Continuous Inkjet) เป็นหมึกคุณภาพมาตรฐาน HP ใช้ในอุตสาหกรรมการพิมพ์บนบรรจุภัณฑ์
กลุ่มที่ 4 แผ่นฟิล์มสำหรับผลิตบรรจุภัณฑ์ (Packaging Film) เป็นนวัตกรรมฟิล์มใสที่สามารถป้องกันแสง UV และออกซิเจน เมื่อนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์แล้วสามารถนำเข้าไมโครเวฟได้ และรีไซเคิลได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 2-4 นี้บริษัทฯ จะเริ่มนำเข้ามาทำตลาดภายในปลายปีนี้