นครศรีธรรมราช - วิกฤตคราบสนิมที่ปลียอดทองคำ องค์พระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราชขยายวงกว้าง ร้องทางการอย่าเพิกเฉยเร่งตรวจสอบหวั่นชำรุดหนัก ขณะที่โครงการสร้างนั่งร้านขึ้นสำรวจยังไม่คืบ
วันนี้ (19 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ภายหลังจากที่ฝนตกหนักตลอดเกือบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบต่อปลียอดทองคำองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ที่ตั้งอยู่ภายในเขตพุทธาวาส วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จนรอยคราบคล้ายสนิมเมื่อช่วงหน้ามรสุมปลายปีที่ผ่านมาได้ขยายวงกว้างมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด คราบดังกล่าวได้เยิ้มปกคลุมปล้องไฉน ที่รองรับปลียอดทองคำใต้กลีบบัวคว่ำบัวหงายทองคำจนเต็มพื้นที่ ขณะที่กลีบบัวทองคำทางด้านฝั่งตะวันตกมีสีดำคล้ำจนสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ขณะที่ฝั่งตะวันออกคราบดังกล่าวได้เยิ้มลงมานับสิบเมตรจนเกือบถึงองค์ระฆังคว่ำ
โดยปรากฏการณ์นี้ได้เป็นข่าวจนเป็นที่สนใจของพุทธศาสนิกชนมาแล้วในช่วงหน้ามรสุมปลายปีที่ผ่านมา รวมทั้งคณะกรรมการช่างสิบหมู่ได้เข้าตรวจสอบโดยการส่องกล้องทีโอโดไลต์ความคมชัดสูง แต่ยังไม่สามารถระบุถึงสาเหตุได้ชัดเจนต้องรอขึ้นตรวจสอบด้วยการก่อสร้างนั่งร้านขึ้นไปจนถึงปลียอดจะสามารถระบุได้ และหลังจากนั้นฝ่ายทางการนำโดย นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ระบุว่าหลังจากช่วงมาฆบูชาไปแล้วจะมีการสร้างนั่งร้านขึ้นไปตรวจสอบแต่ปรากฏว่ายังไม่มีความคืบหน้า
นายนริศ น้อยทับทิม มัคคุเทศก์ชาวนครศรีธรรมราช แสดงความเห็นว่า การท่องเที่ยวภายในวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารดีขึ้นเป็นอย่างมาก นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในวัดมีทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ สนใจกับองค์พระบรมธาตุเจดีย์ รวมทั้งความมหัศจรรย์ของการสร้างปลียอดด้วยทองคำ
“บางรายได้ส่องกล้องขึ้นไปดูร่องรอยความชำรุด หลายคนถึงกับบอกว่าไม่น่าจะใช่ทองคำ รอยคราบเยิ้มที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความผิดปกติ อยากให้ทางราชการ ผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งเข้าตรวจสอบบูรณะอย่างเร่งด่วน และขณะนี้ยังใกล้เข้าสู่การเป็นมรดกโลกเข้าไปทุกวันอย่าให้ได้ชื่อว่าทางการทอดทิ้งไม่เหลียวแลปูชนียสถานในวัดวาอารามที่มีมาแต่โบราณที่นี่”
ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ในการใช้งบนั้นต้องเป็นหลักล้านขึ้นแต่ทางกรมศิลปากร หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถใช้งบของทางรัฐบาลได้ ถ้าปล่อยไว้เหมือนกับการบั่นทอนความเชื่อมั่นของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไปเรื่อยๆ เสมือนหนึ่งว่าไม่ได้ดูดำดูดีในการแก้ปัญหาเบื้องต้น จะมีคนพูดต่อได้ว่า หากองค์พระบรมธาตุเจดีย์นี้ไม่ได้ขั้นเป็นมรดกโลกจะปล่อยให้สิ่งสำคัญนี้เกิดข้น และนิ่งดูดายอย่างนั้นหรือ เพราะฉะนั้นต้องรีบทำเสียแต่บัดนี้
นายอาณัต บำรุงวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชกำลังดำเนินการว่าจ้างเอกชนเข้าก่อสร้างนั่งร้านขึ้นไปตรวจสอบ โดยทราบว่ามีการว่าจ้างไปแล้ว ซึ่งมีข้อกำหนดว่าจะต้องติดตั้งเป็นเวลา 180 วัน เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญขึ้นไปตรวจสอบ
“ผู้เชี่ยวชาญคือ นายช่างสิบหมู่ ขณะนี้มีความพร้อมมาตั้งแต่หลังเทศกาลแห่ผ้าขึ้นธาตุแล้ว เมื่อดำเนินการติดตั้งเสร็จก็จะสามารถขึ้นตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้น ชำรุดเสียหายอย่างไร มากน้อยแค่ไหน และสภาพทางกายภาพทั้งหมดเป็นอย่างไรทุกอย่างจะชัดเจน”
