โคคาโคล่าเจอข้อหาหนัก จารกรรมแผนที่เขตอ่อนไหวในจีน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนเริ่มการสอบสวนบริษัทเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่โคคาโคล่า สัญชาติมะกัน ซึ่งถูกกล่าวหาจารกรรมความลับ โดยลอบทำแผนที่ในบริเวณ ซึ่งมีความอ่อนไหวบนแดนมังกร

ในภาวะที่ปักกิ่งและวอชิงตันต่างกล่าวหากันขณะนี้ว่า ลอบสืบความลับของอีกฝ่าย ล่าสุดจีนได้เปิดการสอบสวนคดีดังกล่าว โดยทำงานร่วมกันระหว่างสำนักงานการสำรวจ การทำแผนที่ และภูมิสารสนเทศแห่งชาติ (National Administration of Surveying, Mapping and Geoinformation) กับกระทรวงรักษาความมั่นคงแห่งชาติ การมีส่วนร่วมของหน่วยงานข่าวกรองสูงสุดนี้เน้นให้เห็นถึงความร้ายแรงของคดี

เจ้าหน้าที่ของสำนักงานการสำรวจ ฯ ระบุว่า ทางการจีนเข้าใจดีว่า จารกรรมเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงสำหรับบริษัทชื่อดังระดับโลก และจีนยังกำลังอยู่ในขั้นตอนการรวบรวมข้อมูลอยู่ แต่สิ่งที่พูดได้ในตอนนี้ก็คือบริษัทสาขาหลายรายของโคคาโคล่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้วงความลับดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นในหลายมณฑล

ข่าวจารกรรมแผนที่ครึกโครมขึ้น หลังจากนายหลี่ ผิงเต๋อ รองผู้อำนวยการของสำนักงานการสำรวจฯ กล่าวหาบริษัทผู้ผลิตน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่อย่างเปิดเผยทางสถานีวิทยุแห่งชาติเมื่อวันอังคาร ( 12 มี.ค.) ว่า ลูกจ้างของบริษัทบางคนถูกจับได้ว่าใช้เครื่องจีพีเอสแบบพกพา เก็บข้อมูลทางภูมิศาสตร์ ที่อ่อนไหวในมณฑลหยุนหนัน

ด้านบริษัทโคคาโคล่าออกแถลงการณ์ในวันถัดมาว่า ยินดีให้ความร่วมมือในการสอบสวนอย่างเต็มที่ และชี้แจงว่า เครื่องจีพีเอส ที่ใช้นั้นเป็นระบบสำหรับการขนส่งสินค้าแก่ลูกค้าและแผนที่ดิจิตอล เป็นระบบ ที่มีจำหน่ายในจีน ซึ่งบริษัทนำมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเผยของนายฮั่น ฉือเซียงผู้อำนวยการสำนักงานบังคับใช้กฎหมายของสำนักงานการสำรวจฯ นั้น เห็นได้ชัดว่า โคคาโคล่ากำลังทำมากไปกว่าที่บริษัทตะวันตกหลายรายทำกันในการใช้เครื่องจีพีเอส เพื่อค้นหาตำแหน่งที่อยู่ของลูกจ้าง ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งในการพัฒนาประสิทธิภาพและการวางแผนงานให้ดีขึ้น

นายฉือเซียงระบุว่า เทคโนโลยีการทำแผนที่ ซึ่งบริษัทอเมริกันรายนี้ใช้มีความซับซ้อนเกินกว่าความสามารถของทางสำนักงาน จะวิเคราะห์ระบบได้ โดยหลังจากได้มีการรายงานคดีไปที่รัฐบาลปักกิ่ง ต่อมาทางสำนักงานการสำรวจฯ ก็ได้รับทราบว่า ไม่ใช่มณฑลหยุนหนันแห่งเดียว ที่ถูกลักลอบทำแผนที่

ด้านศาสตราจารย์กั๋ว จี๋หมิง ผู้เชี่ยวชาญการทำแผนที่ด้วยระบบบอกตำแหน่งจีพีเอสของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่นชี้ว่า รัฐบาลจีนต้องรอบคอบอย่างมากในการสรุปคดีนี้ โดยรัฐบาลจีนมีความระมัดระวังอย่างยิ่งเกี่ยวกับการใช้เครื่องจีพีเอสของชาวต่างชาติ เนื่องจากข้อมูลทางภูมิศาสตร์นี้อาจนำมาใช้กับขีปนาวุธนำวิถี เพื่อโจมตีที่ตั้งทางทหารที่สำคัญได้ และถึงแม้ภาพถ่ายดาวเทียมในปัจจุบันมีความคมชัดสูง แต่ก็ไม่สามารถชี้ที่ตั้งของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เพราะขาดหลักฐานอ้างอิงนั่นเอง