- องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) เปิดเผยว่าอัตราว่างงานของประเทศสมาชิก OECD ทรงตัวที่ระดับ 8% ในเดือนเม.ย. พร้อมระบุว่า อัตราว่างงานประประเทศยุโรปเพิ่มขึ้นสูงสุดทำสถิติใหม่ โดยเพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 12.2% ในเดือน เม.ย.ซึ่งเหนือกว่าระดับสูงสุดของกลางช่วงทศวรรษ 1990 อยู่ 1.3%ในขณะที่อัตราว่างงานในสหรัฐลดลง 0.1% สู่ระดับ 7.5%
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะของกรีซ เผยว่า รัฐบาลกรีซสามารถระดมทุนได้ 1.625 พันล้านยูโร จากการประมูลขายตั๋วเงินคลังครั้งล่าสุด รัฐบาลกรีซขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือน ที่อัตราผลตอบแทน 4.2% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับการประมูลเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยนับตั้งแต่ปี 2553 ที่ผ่านมา การขายตั๋วเงินคลังประจำเดือนกลายเป็นแหล่งเงินทุนที่เหลืออยู่เพียงแหล่งเดียวของกรีซ นอกเหนือไปจากเงินช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟ เนื่องจากกรีซได้ถูกปิดกั้นจากตลาดการเงินโลกตลอด 3 ปีที่ผ่านมา
- การผลิตภาคอุตสาหกรรมของกลุ่มยูโรโซนในเดือน เม.ย. ขยายตัว 0.4% จากระดับเดือน มี.ค. ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่ว่าเศรษฐกิจของยูโรโซนเริ่มที่จะฟื้นตัวจากภาวะถดถอยที่ยืดเยื้อ ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมในเยอรมนีขยายตัว 1.2% ในเดือน เม.ย. ส่วนผลผลิตของฝรั่งเศสดีดตัวขึ้น 2.3% แต่การผลิตของอิตาลีและสเปนอ่อนตัวลง
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเผย ดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมนีในเดือน พ.ค. ขยับขึ้น 0.4%จากเดือน เม.ย. และปรับเพิ่มขึ้น 1.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส เผยดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือน พ.ค. ขยับขึ้น 0.1%จากเดือน เม.ย. และปรับขึ้น 0.8% เมื่อเทียบกับเดือน พ.ค. ปี 2555 เป็นผลมาจากราคาอาหารสดที่พุ่งขึ้นกว่า 4%
- ธ.กลางฝรั่งเศสรายงานว่า ยอดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในเดือน เม.ย. ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือน มี.ค. อยู่ที่ 2.8 พันล้านยูโร ทั้งนี้ยอดขาดดุลการค้าอยู่ที่ 4.5 พันล้านยูโร จาก 4.6 พันล้านยูโรในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ภาคบริการมียอดเกินดุลการค้าลดลงแตะ 2.7 พันล้านยูโร จาก 2.9 พันล้านยูโรในเดือน มี.ค. การลงทุนโดยตรงของต่างชาติในฝรั่งเศสหดตัวลงสู่ระดับ 1.5 พันล้านยูโรในเดือน เม.ย. แต่การลงทุนโดยตรงของฝรั่งเศสในต่างประเทศกลับเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.7 พันล้านยูโร
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือน พ.ค. ลดลง8,600 คน ซึ่งทำให้มีจำนวนผู้ว่างงาน 1.51 ล้านคน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลงในเดือนที่แล้วบ่งชี้ว่า ตลาดแรงงานกำลังปรับตัวดีขึ้น ขณะที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีความคืบหน้า
- สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือน พ.ค. โดยดัชนีมุมมองเชิงบวกของธุรกิจขนาดเล็ก เพิ่มขึ้น 2.3 จุด สู่ระดับ 94.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กมีมุมมองที่สดใสขึ้นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้า
- ก.พาณิชย์สหรัฐเผยว่า สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือน เม.ย. ปรับตัวขึ้น 0.2% จากเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น 0.3% ขณะที่ยอดค้าส่งดีดตัวขึ้น 0.5% หลังจากที่ร่วงลง 1.4% ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นสัญญาณบวกสำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ สต็อกสินค้าที่เพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. นั้นนำโดยยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ นอกจากนี้ สต็อกเฟอร์นิเจอร์ ไม้แปรรูป และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งเช่นกัน ด้านสต็อกเครื่องจักร สินค้าเกษตร และเคมีภัณฑ์ปรับตัวลดลง
- รัฐบาลญี่ปุ่นรายงานว่า ยอดคำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานภาคเอกชนเดือน เม.ย. ปรับตัวลง 8.8% จากเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ทั้งนี้คำสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมเครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่อเรือและสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนนั้น นับเป็นปัจจัยชี้วัดการใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทต่างๆ
- ธ.กลางญี่ปุ่น เผยว่า ราคาค้าส่งของญี่ปุ่นเดือน พ.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 0.6% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยมีปัจจัยจากการอ่อนค่าของเงินเยน รวมถึงค่าไฟและราคาน้ำมันที่สูงขึ้น โดยราคาค้าส่งที่เพิ่มขึ้นสะท้อนความเคลื่อนไหวของบริษัทต่างๆในการผลักต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบที่สูงขึ้นไปสู่ราคาสินค้า เนื่องจากเงินสกุลเยนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญอื่นๆ
- ไอเอสเอช อิงค์ บริษัทวิจัยของสหรัฐอเมริกาคาดการณ์ว่า ญี่ปุ่นจะกลายเป็นตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกในปีนี้ โดยญี่ปุ่นได้ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์แบบใหม่ซึ่งมีกำลังการผลิตมากขึ้น 2 เท่า โดยมูลค่าตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ของญี่ปุ่นจะแตะ 1.98 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2556 แซงหน้าเยอรมนีซึ่งเป็นตลาดใหญ่ที่สุดในระหว่างปี 2552-2555
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของเกาหลีใต้เผยว่า ตัวเลขการจ้างงานปรับตัวลงในเดือนพ.ค. เนื่องจากการจ้างงานใหม่ในภาคการผลิตมีจำนวนลดลง ซึ่งสะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รายงานของสำนักงานระบุว่า จำนวนผู้มีงานทำเพิ่มขึ้น 256,000 คน จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับ 25,398,000 คนในเดือน พ.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 345,000 คนในเดือน เม.ย. แต่หากเทียบรายเดือน จำนวนผู้มีงานทำลดลง 25,000 คน
- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอินเดียเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดียขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ โดยผลผลิตของโรงงาน สาธารณูปโภค และเหมืองแร่ เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ซึ่งชะลอตัวลงจากที่ขยายตัว 3.4% ในเดือน มี.ค. และต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4% เนื่องจากอุปสงค์ภายในประเทศและการขยายตัวของการส่งออกยังคงซบเซา
- SET Index ปิดที่ 1,433.47 จุด ลดลง 19.16 จุด หรือ -1.32% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66,506.14 ล้านบาท โดยตลาดยังคงปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แม้ว่าเกิด Technical Rebound ระหว่างชั่วโมงการซื้อขาย แต่เป็นไปได้อย่างจำกัด หลังเผชิญแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งแรงขายหุ้น TRUE กดดันบรรยากาศการลงทุน กลุ่ม ICT และธนาคารปรับตัวลงแรงถูกแรงขายจากนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ADVANC -4.4%, INTUCH -3.1%, KBANK -3.6%, BBL -1.8% TRUE -14.8% หลัง Moody’s ลดมุมมองต่อ TRUE จาก Stable เป็น Negative แม้ว่าจะคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ B2
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเคลื่อนไหวในช่วง -0.01% ถึง 0.06%
- ธนาคารกลางอินโดนีเซียปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนขึ้น 0.25% สู่ระดับ 4.25% โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนสกุลเงินรูเปียห์ หลังจากรูเปียห์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552