ผู้บริหารซัมมิทโวภูมิใจได้ส่วนแบ่งงานโครงการน้ำของรัฐบาล 1.4 หมื่นล้าน ยันงานนี้ไม่มีวิ่งเต้น ลั่นจะใช้ประสบการณ์ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด
นายสมบัติ เพ็ชรตระกูล ประธานห้างหุ้นส่วนจำกัดสามประสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ซึ่งมี หจก.สามประสิทธิ์ ได้เข้าไปร่วมทำงานได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย 3.5 แสนล้านบาท โดยได้คะแนนทางด้านเทคนิคตามเกณฑ์ และผ่านเข้าไปในรอบของการเปิดซองราคาในโครงการดังกล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย
เพราะกิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ถือเป็นบริษัทของคนไทยแท้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำในประเทศมานาน และได้เข้ามาทำโครงการน้ำให้แก่ประเทศ การไม่มีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องแม้จะได้งานไม่มากเท่ากับบริษัทต่างชาติซึ่งถือมีความพร้อมมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเสนอรายละเอียดได้ระดมทีมวิศวกรของบริษัท 50 กว่าคนมาระดมความคิดและจัดทำเอกสารส่งข้อมูลให้คณะกรรมการฯ พิจารณา ประมาณ 400 ลัง มีคณะกรรมการฯ 29 ชุดระดับปลัดกระทรวงและผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมพิจารณา ดังนั้นไม่มีนอกมีในเพราะไม่สามารถล็อบบี้กรรมการฯ ชุดนี้ได้
ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ได้โครงการ 1 โมดูล คือ Module B2 เกี่ยวกับการจัดทำผังการใช้ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ งบประมาณไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาท โดยต้องก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยอมรับทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีลูกหาบอีก 2 บริษัท กรรมการฯ กำหนดทีโออาร์ต้องมีผลงานย้อนหลัง 10 ปี ผลงาน 2 หมื่นล้าน บริษัทฯ มี 1.9 หมื่นล้านถือว่ามีมากที่สุดในบริษัทของคนไทย จึงหาลูกหาบที่เป็นบริษัทคนไทยอีก 2 บริษัทมาร่วมด้วย เพราะบริษัทใหญ่ไม่มาร่วมกับเรา ไปเข้ากับบริษัทเกาหลีและจีนหมด
“ตัวแทนของบริษัทได้ไปบรรยายให้กรรมการฯ รับฟัง ไม่เคยไปวิ่งเต้น ไม่เคยสนใจว่าจะได้หรือไม่ บอกกับลูกชาย (นายพีรพล เพชรตระกูล ) ซึ่งร่วมรวบรวมเอกสารไปว่าให้เตรียมใจไว้เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนแค่ 400 ล้าน ปรากฏว่ากิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ผ่านการรับรองแม้จะเป็นบริษัทเล็ก ทุนจดทะเบียนน้อย แต่ธนาคารกรุงเทพให้เครดิตเพราะทำงานกับสามประสิทธิ์มากว่า 20 ปี ถ้าได้โครงการเป็นแสนล้านก็จะให้การรับรอง วันนี้จึงภูมิใจมาก และจะใช้ประสบการณ์ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด”
นายสมบัติ เพ็ชรตระกูล ประธานห้างหุ้นส่วนจำกัดสามประสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีที่กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ซึ่งมี หจก.สามประสิทธิ์ ได้เข้าไปร่วมทำงานได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกโครงการเพื่อออกแบบและก่อสร้างระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน และระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย 3.5 แสนล้านบาท โดยได้คะแนนทางด้านเทคนิคตามเกณฑ์ และผ่านเข้าไปในรอบของการเปิดซองราคาในโครงการดังกล่าวว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจอย่างมากในฐานะที่เป็นบริษัทของคนไทย
เพราะกิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ถือเป็นบริษัทของคนไทยแท้ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องน้ำในประเทศมานาน และได้เข้ามาทำโครงการน้ำให้แก่ประเทศ การไม่มีต่างชาติเข้ามาเกี่ยวข้องแม้จะได้งานไม่มากเท่ากับบริษัทต่างชาติซึ่งถือมีความพร้อมมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ก่อนจะเสนอรายละเอียดได้ระดมทีมวิศวกรของบริษัท 50 กว่าคนมาระดมความคิดและจัดทำเอกสารส่งข้อมูลให้คณะกรรมการฯ พิจารณา ประมาณ 400 ลัง มีคณะกรรมการฯ 29 ชุดระดับปลัดกระทรวงและผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมพิจารณา ดังนั้นไม่มีนอกมีในเพราะไม่สามารถล็อบบี้กรรมการฯ ชุดนี้ได้
ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ได้โครงการ 1 โมดูล คือ Module B2 เกี่ยวกับการจัดทำผังการใช้ที่ดิน การใช้ประโยชน์ที่ดินในพื้นที่ลุ่มน้ำ รวมทั้งการจัดทำพื้นที่ปิดล้อมพื้นที่ชุมชนและเศรษฐกิจหลักในพื้นที่ลุ่มน้ำ 17 ลุ่มน้ำ งบประมาณไม่เกิน 1.4 หมื่นล้านบาท โดยต้องก่อสร้างแล้วเสร็จภายในระยะเวลา 5 ปี
นอกจากนี้ บริษัทยอมรับทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท มีลูกหาบอีก 2 บริษัท กรรมการฯ กำหนดทีโออาร์ต้องมีผลงานย้อนหลัง 10 ปี ผลงาน 2 หมื่นล้าน บริษัทฯ มี 1.9 หมื่นล้านถือว่ามีมากที่สุดในบริษัทของคนไทย จึงหาลูกหาบที่เป็นบริษัทคนไทยอีก 2 บริษัทมาร่วมด้วย เพราะบริษัทใหญ่ไม่มาร่วมกับเรา ไปเข้ากับบริษัทเกาหลีและจีนหมด
“ตัวแทนของบริษัทได้ไปบรรยายให้กรรมการฯ รับฟัง ไม่เคยไปวิ่งเต้น ไม่เคยสนใจว่าจะได้หรือไม่ บอกกับลูกชาย (นายพีรพล เพชรตระกูล ) ซึ่งร่วมรวบรวมเอกสารไปว่าให้เตรียมใจไว้เนื่องจากมีทุนจดทะเบียนแค่ 400 ล้าน ปรากฏว่ากิจการร่วมค้า ซัมมิท เอสยูที ผ่านการรับรองแม้จะเป็นบริษัทเล็ก ทุนจดทะเบียนน้อย แต่ธนาคารกรุงเทพให้เครดิตเพราะทำงานกับสามประสิทธิ์มากว่า 20 ปี ถ้าได้โครงการเป็นแสนล้านก็จะให้การรับรอง วันนี้จึงภูมิใจมาก และจะใช้ประสบการณ์ทำงานให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติมากที่สุด”