xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ขนทีมเป่าหูชาวนา ปัดพัลวันไม่ได้ทำจำนำเจ๊ง 2.6 แสนล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“พาณิชย์” ขนทีมลงพื้นที่แจงชาวนา ยันไม่ได้ทำให้ชาติเสียหายจากโครงการรับจำนำ 2.6 แสนล้าน ยันเดินหน้าต่อ “ปู” โยน “บุญทรง” นั่งหัวโต๊ะประชุม กขช. 13 มิ.ย.นี้ ชำแหละรายงานอนุกรรมการปิดบัญชี อึกอักเปิดเผยได้หรือไม่ แจงไม่ได้กันเงิน 9 ล้านปลุกม็อบชาวนาต้านพวกแฉจำนำเจ๊ง “อำมาตย์เต้น” เดือด อัด “มาร์ค” ฟอร์มตก ยกเมฆ ตัวเลขมั่ว กลัวความจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (9 มิ.ย.) ที่โรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม อ.เมือง จ.พิษณุโลก นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง นางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วยตัวแทนข้าราชการระดับสูงจากกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาจัดงานเสวนาจำนำข้าวสัญจร จับเข่าคุยเกษตรกรชาวนา เพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก มีชาวนา จ.พิษณุโลก และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางเข้ามารับฟังกันมากกว่า 1,300 คน

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้มีการแจกหนังสือ รู้ลึก รู้จริง โครงการรับจำนำข้าว รวมถึงมีกล่องรับแสดงความคิดเห็นให้ชาวนาสอบถามปัญหาการรับจำนำที่เกิดขึ้น

นายบุญทรงกล่าวกับชาวนาว่า ตัวเลขขาดทุนจากโครงการรับจำนำ 2.6 แสนล้านบาทไม่เป็นความจริง หากเอาเอกสารมาดูก็ไม่พบตัวเลขดังกล่าว แต่ได้ถูกโจมตีจากพ่อค้า นักวิชาการ พรรคการเมืองต่างๆ กระทรวงพาณิชย์จึงต้องออกมาชี้แจงให้สังคมเข้าใจ ซึ่งตามนโยบายจะตั้งเป้าหมายทำให้ครบ 3 ปี และได้ผลดีคือชาวนามีรายได้เพิ่ม ลดภาระหนี้สิน ซึ่งไม่มีเป้าหมายว่าจะต้องทำกำไร

“ที่มาในวันนี้ก็เพื่อจะสร้างความมั่นใจแก่ชาวนาว่าไม่ได้เป็นผู้สร้างความเสียหายแก่ประเทศชาติ และยืนยันว่าโครงการยังเดินหน้าต่อ พี่น้องเกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการได้เหมือนเดิม และเงินจะถึงมือชาวนาทุกคนเพราะมีกระบวนการจ่ายเงินที่ชัดเจน ส่วนเรื่องการรับเงินล่าช้ายอมรับว่าเกิดขึ้นในกลุ่มของชาวนาที่นำข้าวเข้าร่วมจำนำเกิน 5 แสนบาท เนื่องจากต้องมีขั้นตอนตรวจสอบรายละเอียดให้รอบคอบก่อนจ่ายเงินออกไป”

ส่วนกรณีที่เลือก จ.พิษณุโลกเป็นเวทีจำนำข้าวสัญจร เนื่องจากพิษณุโลกเป็นศูนย์กลางการปลูกข้าวภาคเหนือตอนล่าง ประกอบกับเป็นพื้นที่ใกล้กับการจัด ครม.สัญจรที่กำแพงเพชร จึงเลือกที่นี่เป็นแห่งแรก และหลังจากนี้มีแผนจัดสัญจรทุกพื้นที่ที่มีการปลูกข้าว และขอปฏิเสธว่ากระทรวงพาณิชย์ไม่ได้ของบประมาณเพิ่มมา 9 ล้านบาทเพื่อจัดเวทีจำนำข้าวสัญจรฯ เพื่อปลุกระดมมวลชน แต่เป็นเพียงงบปกติของโครงการรับจำนำที่มีไว้ใช้ในการประชาสัมพันธ์แก่เกษตรกร และที่ผ่านมาก็มีการทำโครงการลักษณะนี้อยู่แล้ว

นายบุญทรงกล่าวถึงกรณีสมาคมชาวนาไทยเสนอให้รัฐบาลลดราคาจำนำข้าวเหลือตันละ 1 หมื่นบาทเพื่อลดปัญหาการขาดทุนและให้โครงการเดินหน้าได้ระยะยาวว่า เรื่องนี้จะมีการนำเข้าหารือในคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) แต่จะไม่นำมาใช้ในตอนนี้ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้รู้ล่วงหน้าก่อนฤดูกาลเพาะปลูกมาถึง ส่วนที่มีความเป็นห่วงว่าการขาดทุนโครงการจำนำจะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเดินหน้าโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานประเทศ 2 ล้านล้านบาทหรือไม่นั้นเป็นคนละส่วนกัน เพราะโครงการจำนำเป็นการใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)

อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ตนได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นประธานประชุม กขช. โดยวาระสำคัญคือ การพิจารณารายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำว่ามีข้อมูลถูกต้องหรือไม่ ส่วนจะเชิญ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ มาชี้แจงหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับฝ่ายเลขาฯ จะพิจารณา ส่วนผลการประชุมจะเปิดเผยได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับมติที่ประชุม

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ดำเนินโครงการรับจำนำมีเม็ดเงินถึงมือชาวนามากถึง 6.18 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นการโอนตรงจาก ธ.ก.ส.เข้าบัญชีชาวนา โดยจำแนกเป็นโครงการนาปี 2554/55 มูลค่า 6.95 ล้านตัน โอนเงินให้ชาวนาแล้ว 1.18 แสนล้านบาท นาปรังปี 2555 จำนวน 14.7 ล้านตัน โอนเงินให้ชาวนาแล้ว 2.18 แสนล้านบาท รวมทั้งปี 2554/55 มีข้าวเข้าร่วมโครงการ 21.65 ล้านตัน โอนเงินให้ชาวนา 3.37 แสนล้านบาท และโครงการปี 2555/56 รอบแรกมีข้าวร่วมโครงการ 14.02 ล้นตัน โอนเงินให้ชาวนาแล้ว 2.28 แสนล้านบาท และรอบ 2 มีข้าวร่วมโครงการ 3.54 ล้านตัน โอนเงินให้แล้ว 5.2 หมื่นล้านบาท

ส่วนตัวเลขยอดขาดทุนโครงการรับจำนำทั้งหมด พบว่ามีหลายหน่วยงานออกมาคาดการณ์แตกต่างกันมาก เช่น สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทยระบุขาดทุน 1.7 แสนล้านบาท กระทรวงการคลัง 7 หมื่น-1 แสนล้านบาท สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยบอกจะขาดทุนมากกว่า 2.6 แสนล้านาบท ขณะที่ รมว.พาณิชย์ระบุไม่เกิน 8 หมื่นล้านบาท ซึ่งตัวเลขที่ไม่ตรงกันแสดงให้เห็นว่าเป็นแค่เพียงความเห็น และยังสรุปไม่ได้เพราะงานยังไม่จบ จนทำให้ยุ่งกันไปหมด

“อยากให้พรรคฝ่ายค้านอธิบายถึงที่มาที่ไปของข้อมูลขาดทุนที่ออกมาเปิดเผย 2.6 แสนล้านบาท เนื่องจากรายงานของคณะอนุกรรมการปิดบัญชีฯ เป็นเอกสารลับของราชการ แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อทำเสร็จแล้วจึงไปอยู่ในมือของพรรคฝ่ายค้านก่อน กขช.เสียอีก ทำให้ข้อมูลไม่มีความน่าเชื่อถือ แต่นายอภิสิทธิ์เหมือนคนที่อยู่ในคลอง เห็นอะไรลอยมาคิดว่าขอนไม้ คว้าไว้ที่กลายเป็นหมาเน่า ตอนนี้คุณอภิสิทธิ์เป็นอยู่ 4 อย่าง คือ ฟอร์มตก ยกเมฆ ตัวเลขมั่ว กลัวความจริง” นายณัฐวุฒิกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น