- ธ.กลางกรีซ เตือนว่า อัตราว่างงานและภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้มีแนวโน้มย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้า โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะหดตัว 4.6% และอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 28% ซึ่งแย่กว่าตัวเลขคาดการณ์ของรัฐบาลที่ระบุว่าเศรษฐกิจะหดตัว 4.2% และอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 26.6% ทั้งนี้ เศรษฐกิจกรีซหดตัว 6.4% ในปี 2555 และหดตัว 7.1% ในปี 2554 หลังจากที่เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอยมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2551
- ยอดค้าปลีกของสเปนเดือน เม.ย.ลดลง 4.7%จากปีก่อนหน้า ลดลงต่อเนื่องจากเดือน มี.ค.ที่ลดลง 8.9% และเป็นการลดลง 34 เดือนติดต่อกัน
- จำนวนผู้ว่างงานในเยอรมนีเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 21,000 ราย เป็น 2.96 ล้านราย หลังเศรษฐกิจยังคงได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปและจากฤดูหนาวที่ยาวนาน โดย GDP ไตรมาสแรกขยายตัว 0.1% ดีขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ติดลบ 0.7%
- สหรัฐ ยอมรับว่า แฮคเกอร์จีนสามารถเจาะระบบเข้าถึงโครงการอาวุธล้ำสมัยของสหรัฐ อันเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบป้องกันขีปนาวุธ เครื่องบินรบ และเรือ ทำให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำสมัย และอาจทำให้แต้มต่อทางทหารของสหรัฐลดลงในยามเกิดความขัดแย้ง
- IMF ปรับลดประมาณการ GDP ของจีนปี 2556 - 2557 จาก 8%-8.2% เหลือ 7.75% หลังรัฐบาลจีนมุ่งเน้นให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืนมากขึ้น และเชื่อว่าการดำเนินนโยบายการเงิน-การคลังของจีนเป็นไปอย่างเหมาะสม แต่ไม่ควรจำกัดการปล่อยสินเชื่อในขณะนี้ เนื่องจากจะทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอีก นอกจากนี้จีนควรเพิ่มบทบาทของกลไกตลาดในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น หลังรัฐบาลประกาศเปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากขึ้น
- เกาหลีใต้ ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเอเชียเริ่มเผชิญปัญหาจากเศรษฐกิจจีนชะลอตัวและเงินเยนที่อ่อนค่า ซึ่งกระทบต่อความสามารถด้านการส่งออกของเกาหลีใต้ ทั้งนี้ เกาหลีใต้เกินดุลการค้าลดลงในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นผลจากการส่งออกเรือและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่ลดลง อย่างไรก็ตาม แม้ว่ายอดเกินดุลการค้าจะน้อยลง แต่ก็เกินดุลบัญชีเดินสะพัดมา 15 ดือนติดต่อกันแล้ว ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีนี้มียอดเกินดุลสะสม 13.94 พันล้านดอลลาร์
- คณะกรรมการ กนง. ของ ธปท. มีมติเอกฉันท์ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25%มาอยู่ที่ 2.50%เพราะเศรษฐกิจไทยมีความเสี่ยงด้านการขยายตัวมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากไตรมาสแรกที่ขยาย ตัวต่ำกว่าคาด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน จึงสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยงต่อการขยายตัวของอุปสงค์ในประเทศได้ ทั้งนี้ กนง.ยืนยันว่าพร้อมจะดูแลความเสี่ยงทุกด้าน ทั้งการขยายตัวของสินเชื่อและปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน
- โฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการบริหาร ธ.กรุงเทพ เชื่อว่าการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นการตอบสนองระยะสั้นต่อตัวเลขเศรษฐกิจของสภาพัฒน์ฯ ที่ขยายตัวชะลอลง แต่การที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำจะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งสะท้อนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายในหลายประเทศที่อยู่ในระดับต่ำจนไม่สามารถลดลงได้อีกแล้ว แต่เศรษฐกิจก็ยังไม่เติบโต
- ธ.ไทยพาณิชย์ คาดว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายจะคงอยู่ที่ 2.50% จนถึงสิ้นปี เพราะหนี้ภาคครัวเรือนและความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ยังคงอยู่ จะทำให้โอกาสลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกมีไม่มาก นอกจากนี้ เศรษฐกิจไทยยังมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวได้ดีราว 5% แม้ว่าการบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดในไตรมาสแรกโดยการส่งออกที่เริ่มฟื้นตัวและการลงทุนภาครัฐที่ยังขยายตัวไปตามคาดจะเป็นแรงส่งเพิ่มเติมให้แก่เศรษฐกิจไทยในปีนี้
- ครม.เห็นชอบกรอบการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจ 2556 ใน 3 ด้าน
ด้านที่ 1 มาตรการด้านการเงิน มี 7 มาตรการ
1. ดูแลการซื้อขายเงินตราต่างประเทศไม่ให้ค่าเงินผันผวน
2. ดูแลอัตราดอกเบี้ยให้เหมาะสม
3. กำกับดูแลสถาบันการเงินไม่ให้ปล่อยสินเชื่อเกินความจำเป็นจนเกิดปัญหาฟองสบู่
4. พิจารณาใช้มาตรการจำกัดเงินทุนไหลเข้า
5. บริหารจัดการเงินทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ โดยจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ
6. ช่วยเหลือภาคธุรกิจลดผลกระทบของค่าเงินบาท
7. สร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการดูแลอัตราแลกเปลี่ยนโดยใช้เงินสกุลเดียวกันในการซื้อขาย
ด้านที่ 2 มาตรการด้านการคลัง มี 7 มาตรการ
1. กำกับดูแลการเบิกจ่ายงบประมาณให้มีประสิทธิภาพ
2. ดูแลการลงทุนขนาดใหญ่ทั้งโครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานด้านคมนาคม 2 ล้านล้านบาท ให้เป็นไปตามแผนที่กำหนด
3. กำหนดให้รัฐวิสาหกิจเร่งชำระหนี้ ในช่วงเงินบาทแข็งค่า
4. ปฏิรูปโครงสร้างภาษี
5. สนับสนุนสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ผ่านสถาบันการเงินของรัฐ
6. สนับสนุนให้ภาคธุรกิจเอกชนไปลงทุนต่างประเทศ
7. ส่งเสริมการออมและประกันภัย
ด้านที่ 3 มาตรการเฉพาะด้านที่ช่วยสร้างให้เกิดรายได้ มี 8 มาตรการ
1. ยกระดับรายได้เกษตรกร
2. ส่งเสริม SME ให้เพิ่มสัดส่วนเป็น 40% ของ GDP
3. ขยายการลงทุนและพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
4. เพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและเพิ่มรายได้เป็น 2 เท่า
5. เพิ่มการส่งออก โดยเน้นส่งเสริมการค้าชายแดน
6. หาแหล่งพลังงานที่มั่นคงในราคาที่เหมาะสม
7. ยกระดับเทคโนโลยีและการเข้าถึงบริการ
8. สร้างรายได้และกำลังซื้อ ลดต้นทุนการประกอบอาชีพสำหรับผู้มีรายได้น้อย
- SET Index ปิดที่ 1,601.61 จุด ลดลง 17.96 จุด หรือ -1.11% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 61,256 ล้านบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลง หลัง กนง. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรออกมา(Sell on Fact) สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตามคือกระแสเงินจากนักลงทุนต่างชาติ รวมถึงตัวเลข GDP และการบริโภคในสหรัฐ ในไตรมาส 1/2556
- ตลท.กำลังหารือกับ ก.ล.ต. เรื่องเกณฑ์รับบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นแห่งแรก (Primary listing) ซึ่ง ก.ล.ต. ห่วงเรื่องคุณสมบัติและการตรวจสอบว่าจะดำเนินการอย่างไร เนื่องจากมีความเป็นห่วงนักลงทุนที่จะเข้าไปลงทุน
- บางกอกแอร์เวย์ คาดว่าปีนี้จะสามารถซื้อขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์ได้ โดยจะนำเงินไปขยายฝูงบิน ก่อสร้างโรงซ่อมอากาศยานที่สนามบินสุวรรณภูมิ ก่อสร้างโรงครัวใหม่ และอื่นๆ เพื่อเป็นการขยายธุรกิจรองรับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.01% ถึง +0.08% โดยตลาดตราสารหนี้ไทยมีมูลค่าการซื้อขายรวม 73,537 ล้านบาท และ Yield Curve ปรับเพิ่มขึ้นในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-8 bps. สำหรับวันนี้ไม่มีการประมูลพันธบัตร
