เอกชนประสานเสียงอยากเห็น “กนง.” วันนี้เคาะลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5% เพื่อผลักดันให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่อ หลังออเดอร์ส่งออกชะลอตัวต่อเนื่องจาก ศก.โลกและค่าเงินบาทที่แข็งค่า ย้ำจากนี้ต้องใช้นโยบายผสมผสานการเงินและการคลัง เตือนรับมือบาทผันผวนกรณีสหรัฐฯ ส่อยกเลิกคิวอี 3
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันนี้ (29 พ.ค.) ทาง กนง.ควรมีการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.5% เพื่อเป็นผลดีทำให้ค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ แม้ว่าการลดดอกเบี้ยจะมีผลต่ออัตราแลกเปลี่ยนน้อยมากก็ตาม แต่เป็นการช่วยดูแลให้เศรษฐกิจขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัวได้ต่ำเพียง 5.3% ขณะที่ปัญหาเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวจนน่ากังวล
“หากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.กังวลภาวะอัตราดอกเบี้ยต่ำจะทำให้ประชาชนไม่ออมเงิน และนำเงินมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจนเกิดภาวะฟองสบู่นั้น เห็นว่าทาง ธปท.ควรใช้มาตรการพิเศษในการดูแลปัญหาเฉพาะด้านเข้ามาดูแลเรื่องนี้” นายพยุงศักดิ์กล่าว
นายวัลลภ วิตนากร รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า จากการหารือ ส.อ.ท.เห็นภาพที่ตรงกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ว่าเศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงชัดเจนโดยเฉพาะขณะนี้คำสั่งซื้อหรือออเดอร์ลดลงต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นผสมกับค่าเงินบาทที่แข็งค่า ดังนั้นจึงมองว่า กนง.ควรลดดอกเบี้ย 0.5% เพื่อดูแลเศรษฐกิจ เพราะราคาพลังงานขณะนี้ไม่ได้สูงและเงินเฟ้อก็อยู่ในระดับควบคุมได้ ส่วนค่าเงินเป็นเพียงผลพลอยได้จากการลดดอกเบี้ย และหากพบว่าการลดดอกเบี้ยแล้วไม่มีผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจกระทรวงการคลังก็จะต้องออกมาตรการเข้ามาเสริมด้วย โดยต้องการเห็นการดำเนินนโยบายการเงิน และการคลังที่ผสมผสาน
“ผมบอกได้เลยว่าถ้า กนง.ลดดอกเบี้ยลง 0.25% จะไม่มีผลอะไรเลยต่อเศรษฐกิจ จึงเห็นว่าควรจะลดอย่างน้อย 0.50%” นายวัลลภกล่าว
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการ ส.อ.ท. และรักษาการประธาน ส.อ.ท.กล่าวว่า ต้องการเห็นการทำงานของ ธปท.ที่เป็นอิสระ ขณะเดียวกันก็ต้องการให้นำประเด็นข้อคิดเห็นของรัฐบาลและภาคเอกชนไปประกอบการตัดสินใจ ซึ่งจากการหารือเอกชนกังวลว่าค่าเงินบาทจากนี้ไปจะผันผวนสูงจากกรณีความไม่แน่นอนที่สหรัฐอเมริกาอาจยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณเงิน หรือคิวอี 3 จึงมองว่า ธปท.ควรมีมาตรการที่จะดูแลค่าเงินบาทช่วงนี้ให้ชัดเจนที่เป็นรูปธรรมกว่าที่เป็นอยู่ ส่วนดอกเบี้ยเพื่อลดแรงกดดันและเป็นจิตวิทยาก็มองว่าควรจะลดลง 0.25-0.50% ได้
นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานอาวุธโสหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงหรือไม่คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ กนง.ตัดสินใจเพราะเชื่อว่าจะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด ส่วนเอกชนนั้นสิ่งสำคัญคือต้องการเห็นค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ โดยเวลานี้ค่าบาทเคลื่อนไหวระดับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐถือว่าเหมาะสมและสะท้อนภูมิภาคในขณะนี้
