ทอท.เพิ่มกรอบชดเชยเสียงสุวรรณภูมิเฟส 2 เพิ่มระดับเส้นเสียงครอบคลุมหวังลดแรงต้าน

ทอท.เสนอปรับกรอบชดเชยเสียงพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 ใหม่ เพิ่มระดับเส้นเสียงเพื่อกระจายการชดเชยให้ทั่วถึงและครอบคลุม “ศิธา” มั่นใจประชาชนพอใจการชดเชยและไม่กระทบกรอบวงเงิน เผย “ชัชชาติ” สั่งทำรายละเอียดและกฎหมายที่เกี่ยวข้องรายงานใน 1 สัปดาห์

น.ต.ศิธา ทิวารี ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยภายหลังการประชุมแก้ไขปัญหาการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งมีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน วานนี้ (27 พ.ค.) ว่า ทอท.ได้เสนอให้มีการปรับกรอบการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะที่ 2 ใหม่ โดยเพิ่มระดับการชดเชยตั้งแต่ในพื้นที่ NEF 20-30, พื้นที่ NEF 30-40 และพื้นที่ NEF เกิน 40 จากเดิมที่กำหนดกรอบการชดเชยแค่ 2 ระดับ คือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบพื้นที่ NEF 30-40 และพื้นที่ NEF มากกว่า 40 เพื่อให้การชดเชยเป็นไปอย่างทั่วถึง โดย รมว.คมนาคมได้มอบหมายให้ ทอท.จัดทำรายละเอียดรูปแบบการชดเชยดังกล่าวกลับมาเสนออีกครั้งภายใน 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องพิจารณาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รอบคอบก่อน ขณะที่การสำรวจเส้นเสียงและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบที่จะได้รับการชดเชยจากการพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือน

ทั้งนี้ การปรับรูปแบบการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบทางเสียงจะทำให้การพัฒนาสุวรรณภูมิเฟส 2 เป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น โดยนำปัญหาจากเฟส 1 มาปรับปรุง จากที่มีกรอบชดเชยในเส้นเสียง 2 ระดับซึ่งทำให้มีกรณีความไม่ทั่วถึง คือ บ้านที่ติดกันแต่เป็นคนละเส้นเสียง บ้านหลังหนึ่งได้รับชดเชยแต่อีกหลังไม่ได้ทั้งที่ติดกันและได้รับผลกระทบทางเสียงในระดับใกล้เคียงกัน

ดังนั้น การเปลี่ยนรูปแบบการชดเชยใหม่ โดยเพิ่มระดับพื้นที่ตั้งแต่ NEF 20-30 NEF 30-40 และระดับ NEF เกิน 40 ซึ่งมั่นใจว่ารูปแบบดังกล่าวจะไม่ทำให้วงเงินชดเชยบานปลาย เพราะจะใช้วิธีเฉลี่ยให้ผู้ได้รับผลกระทบภายใต้กรอบที่มี เช่นเดิมบ้านหลังหนึ่งได้ชดเชย 200,000 บาท แต่อีกหลังที่อยู่ติดกันไม่ได้ชดเชยเลย ก็เปลี่ยนเป็นหลังแรกได้รับเสียงดังกว่าได้ชดเชยที่ 150,000 บาท ส่วนบ้านอีกหลังที่ได้รับเสียงดังระดับรองลงมาได้ชดเชย 50,000 บาท

“ยอมรับว่าการเพิ่มระดับการชดเชยจะทำให้ ทอท.ยุ่งยากมากขึ้น แต่เป็นแนวทางที่บรรเทาปัญหาให้ประชาชนได้ ซึ่ง ทอท.จะสรุปรายละเอียดรายงานความคืบหน้าให้ รมว.คมนาคม รับทราบภายใน 1 สัปดาห์ โดยส่วนใหญ่เป็นเรื่องข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งผมกำลังให้เจ้าหน้าที่ช่วยดูข้อกฎหมายที่เป็นสากลด้วย ส่วนจะมีจำนวนผู้ได้รับผลกระทบเท่าไหร่ วงเงินชดเชยแค่ไหนน่าจะสรุปได้ใน 2 เดือน” น.ต.ศิธากล่าว

สำหรับการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบจากการเปิดใช้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟสแรก กรอบวงเงินชดเชย 11,233 ล้านบาท ล่าสุด ทอท.ได้จ่ายค่าชดเชยไปแล้วกว่า 90% ส่วนที่เหลืออีก 10% อยู่ระหว่างการเจรจาเนื่องจากประชาชนยังไม่ยอมรับมาตรการชดเชยที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าปัญหาเรื่องมลภาวะทางเสียงจะไม่ทำให้โครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ล่าช้าเพราะ ทอท.จะพยายามเร่งดำเนินการโดยเร็ว เนื่องจากขณะนี้เฟส 2 ล่าช้ากว่าแผนแล้ว 2 ปี และแม้ขณะนี้จะมีการพัฒนาท่าอากาศยานดอนเมืองเพื่อช่วยรองรับความแออัดและการเติบโตของผู้โดยสารแล้วก็ตาม แต่ถือว่าเป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น