“คมนาคม”ทำแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน 3 จังหวัดชายแดนใต้ หวังเปิดพื้นที่ลดจุดเสี่ยงในการเดินทางของประชาชน พร้อมเสนอติดRFID บนรถทุกคันที่เข้าออกพื้นที่ ตัดต้นตอก่อเหตุร้าย คาดเสนอแผนขยายถนน 4 เลน จากยะลา-เบตง ขยายสนามบินเบตง,นราธิวาส ส่ง”นายกฯ”ปลายเดือนพ.ค.นี้
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังประชุมจัดทำแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า จากที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมจัดทำแผนฯ การพัฒนาเส้นทางต่างเพื่อเปิดพื้นที่ลดจุดเสี่ยงในการเดินทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ และให้รายงานต่อนายกฯสิ้นเดือนพ.ค. ซึ่งได้ได้สั่งให้หน่วยงานในสังกัดทั้งกรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท (ทช.) กรมเจ้าท่า (จท.) กรมการบินพลเรือ (บพ.) การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) จัดทำแผนการพัฒนาโครงการต่างๆ ให้ชัดเจนและเสนอมายังกระทรวงคมนาคมในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้
ทั้งนี้ โครงการเร่งด่วนที่สุดคือการปรับปรุงถนนเข้าพื้นที่ต่างๆ เพื่อหลีกเลี่ยงพื้นที่ปัญหาและเพิ่มทางเลือกในการเดินทางให้ประชาชน เช่น กรมทางหลวงมีแผนจะขยายถนนจากยะลา-เบตง จาก 2 ช่องเป็น 4 ช่องจราจร ส่วน ร.ฟ.ท.ให้ทบทวนความจำเป็นด้านยุทธศาสตร์ของพื้นที่ภาคใต้ในการก่อสร้างรถไฟทางคู่จากหาดใหญ่-ยะลา เนื่องจากปริมาณการเดินทางกับความจุของทางเดี่ยวในปัจจุบันยังเพียงพอ ส่วนทางน้ำให้ศึกษาความต้องการแหล่งอุตสาหกรรมในพื้นที่ ด้านการส่งออกสินค้าทางเรือจากภาคใต้มายังท่าเรือกรุงเทพ และท่าเรือแหลมฉบัง ส่วนทางอากาศนั้น จะมีการปรับปรุงขยายท่าอากาศยานเบตงและนราธิวาสเพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยสำหรับผู้แสวงบุญเดินทางไปประกอบพิธีฮัจญ์
“สาเหตุการก่อเหตุความสงบในพื้นที่ภาคใต้จะใช้รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ที่ขโมยมาดำเนินการ ซึ่งมีแนวคิดในการนำระบบ RFID ติดกับรถที่ผ่านเข้าออกพื้นที่ เพื่อระบุตัวตนและติดตามได้อย่างชัดเจนขึ้น แต่จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาความเป็นไปได้ก่อน”นายชัชชาติกล่าวว่า