เซ็นจ้าง “CEO” แอร์พอร์ตลิงก์คนแรกแล้ว เริ่มทำงาน 16 พ.ค.นี้ ประเมินผลงานครั้งแรก ก.ย. หลังต้องยืดยื้อจากกำหนดเดิมเหตุรอ ร.ฟ.ท.ผู้ถือหุ้นเห็นชอบ ชี้งานด่วนแก้ปัญหาบริการ เผย ก.ค.รถต้องทยอยเข้าซ่อมใหญ่ ลุ้นซ่อมรถ Express ที่เสีย 1 ขบวนเสร็จก่อนหวั่นรถไม่พอโกลาหลอีกแน่
นายจำรูญ ตั้งไพศาลกิจ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด (แอร์พอร์ตลิงก์) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมได้เรียกประชุมบอร์ดวาระพิเศษเพื่ออนุมัติลงนามสัญญาจ้างนายพีรกันต์ แก้ววงศ์วัฒนา เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (CEO) บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท.จำกัด โดยเริ่มทำงานวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 หลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทที่มีการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้รับทราบผลการสรรหาแล้วซึ่งล่าช้ากว่าเดิมที่จะให้ CEO คนใหม่เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมเนื่องจากการอนุมัติต้องผ่านผู้ถือหุ้นก่อนจึงมีขั้นตอนมาก โดยนายพีรกันต์จะต้องทำแผนการบริหารงานเสนอภายใน 1 เดือนซึ่งจะเป็นส่วนที่ใช้ประเมินผลการทำงานโดยจะประเมินครั้งแรกในเดือนกันยายนนี้จากนั้นจะประเมินทุกๆ 6เดือน
“มีหลายเรื่องที่ CEO ต้องเข้ามาแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่น การซ่อมบำรุง การบริการ ความตรงต่อเวลา และขวัญกำลังพนักงาน รวมถึงเร่งรัดงานปรับปรุงทางเข้าออกสถานีมักกะสัน ทั้งในส่วนการก่อสร้างทางเชื่อมต่อ(Sky Walk) กับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่สถานีเพชรบุรี ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนพฤษภาคม การก่อสร้างแลมป์ให้รถสามารถวิ่งเข้ามายังสถานีรถไฟฟ้าทั้งจาก เส้นทางอโศกถนนจตุรทิศเชื่อมต่อถนนศรีอยุธยา และเส้นทางมักกะสันเพื่อลดปัญหาการจราจร และให้ผู้ใช้บริการได้รับความสะดวกมากขึ้น” นายจำรูญกล่าว
สำหรับการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ 7 ขบวน ขบวนละ 4 ตู้ วงเงินรวมประมาณ 5,200 ล้านบาทนั้น นายจำรูญกล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ตั้งข้อสังเกต 3 เรื่อง คือ ราคารถเหมาะสมหรือไม่, ระบบอาณัติสัญญาสามารถปรับปรุงหรือปลดล็อกจากระบบของบริษัท ซีเมนส์ได้หรือไม่ และการสำรองอะไหล่ที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้กระทบต่อการให้บริการ โดยยอมรับว่าราคาที่เสนอนั้นมาจากฐานราคารถและระบบอาณัติสัญญาฯของซีเมนส์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันดังนั้นจะต้องนำตัวเลขจากบริษัทอื่นมาเปรียบเทียบเพื่อเป็นทางเลือก โดยจะพยายามไม่ให้เกินกรอบวงเงินที่เคยเสนอ ซึ่งคาดว่าจะเร่งทบทวนข้อมูลที่เกี่ยวข้องและสรุปเสนอกระทรวงคมนาคมได้ภายใน 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ปัญหาการให้บริการยังเป็นเรื่องของรถเสีย โดยขณะนี้มีขบวนรถ Express Line ชำรุดไป 1 ขบวนจากที่มี 4 ขบวนซึ่งได้เร่งรัดให้ซ่อมและนำกลับมาให้บริการให้ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้รวมกับรถ City Line ที่มี 5 ขบวน เป็น 9 ขบวน เนื่องจากตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป ขบวนรถจะต้องเริ่มทยอยเข้าสู่การซ่อมหนัก (Over hall) เพราะวิ่งครบ 1 ล้านกิโลเมตร