กกร.ถกปัญหาบาทแข็ง ก.พาณิชย์ 26 เม.ย.นี้ ยอมรับตั้งแต่ต้นปีแข็งค่าไปแล้ว 4-5% ถือว่าแข็งค่าที่สุดในเอเชีย “พยุงศักดิ์” รู้สึกแปลกใจที่ค่าเงินของประเทศอื่นนิ่งไม่ผันผวนมาก ส่วนปัญหาเหตุระเบิดในสหรัฐฯ นั้น คงไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในขณะนี้ เพราะสหรัฐฯ มีความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และเป็นปัญหาที่จะต้องได้รับการดูแลจากทางการสหรัฐฯ
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า จากการที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นตั้งแต่ต้นปีประมาณร้อยละ 4-5 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ส่งออกสินค้าในภาพรวมเสียเปรียบการแข่งขันกับคู่ค้าในต่างประเทศ และกระทบอย่างมากกับผู้ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก
ดังนั้น ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ส.อ.ท.ได้นัดสมาชิกที่ส่งออกสินค้าขายต่างประเทศมาหารือ เพื่อรวบรวมปัญหาและอุปสรรค ตลอดจนข้อเสนอแนะที่จะมีต่อภาครัฐให้ช่วยเหลือต่อไป
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 เมษายนนี้ ปลัดกระกระทรวงพาณิชย์ได้นัด 3 หน่วยงานภาคเอกชน ประกอบด้วย ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อประชุมด้านการตลาด เรื่อง SMEs Proactive ซึ่งทราบว่านายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ในโอกาสนี้ กกร.จะได้หารือเรื่องปัญหาเงินบาทแข็งค่าด้วย
นายพยุงศักดิ์กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีเงินบาทแข็งค่าแล้วประมาณร้อยละ 4-5 ปัจจุบันอาจถือว่าแข็งค่าที่สุดในเอเชีย รู้สึกแปลกใจที่ค่าเงินของประเทศอื่นนิ่งไม่ผันผวนมาก ทั้งนี้ หากเงินบาทได้รับการดูแลจะทำเป้าหมายส่งออกปีนี้ให้เติบโตร้อยละ 8-9 เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่ถ้าหากเงินบาทยังคงแข็งค่ามาก ก็ยากที่จะประเมินสถานการณ์การส่งออกได้
ส่วนปัญหาเหตุระเบิดในสหรัฐฯ นั้น คงไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยในขณะนี้ เพราะสหรัฐมีความเสี่ยงในเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว และเป็นปัญหาที่จะต้องได้รับการดูแลจากทางการสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงนักศึกษาที่เดินทางไปศึกษาในเมืองบอสตัน
