เอกชนภาคส่งออกเตรียมประชุมในวันที่ 24 เม.ย. หาข้อแนะเสนอต่อรัฐบาล ช่วยบรรเทาผลกระทบบาทแข็ง พร้อมเข้าพบ รมว.พาณิชย์หามาตรการช่วยเอสเอ็มอีได้รับโดนพิษบาทแข็งในวันที่ 26 เม.ย.
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน กล่าวว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทแข็งตัวส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการโดยเฉพาะภาคส่งออกอย่างสูง ในวันที่ 24 เมษายนนี้ ส.อ.ท.ได้นัดสมาชิกกลุ่มผู้ส่งออก มาหารือเพื่อรวบรวมปัญหาและอุปสรรคตลอดจนข้อเสนอแนะต่อภาครัฐให้ช่วยเหลือต่อไป
ส่วนวันที่ 26 เมษายนนี้ ภาคเอกชนประกอบด้วย ส.อ.ท., สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จะเข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และปลัดกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประชุมหารือด้านการตลาดของเอสเอ็มอี และหารือช่วยเหลือเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าไปพร้อมกัน
ประธาน ส.อ.ท.กล่าวด้วยว่า นับแต่ต้นปีที่ผ่านมาเงินบาทแข็งถึง 4-5% ถือว่าเงินบาทแข็งค่าที่สุดในเอเชีย คาดจะทำให้ยอดการส่งออกลดลง
ทั้งนี้ ยอดการส่งออกล่าสุดของไทยในปี 2556 จากการเปิดเผยของกระทรวงพาณิชย์ คือในเดือนกุมภาพันธ์ โดยการส่งออกมีมูลค่า 1.79 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 5.83% เมื่อเทียบกับเดือน ก.พ. 55 ลดลงครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ตั้งแต่เดือนก.ย.55 และเมื่อเทียบมูลค่าการส่งออกเป็นเงินบาท มีมูลค่า 5.29 แสนล้านบาท ลดลง 11.32% ขณะที่การนำเข้าเดือน ก.พ. 56 มีมูลค่า 1.94 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 5.27% แต่เมื่อเทียบในรูปเงินบาทมีมูลค่า 5.82 แสนล้านบาท ลดลง 0.78% ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้า ก.พ. 56 คิดเป็นมูลค่า 1,557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือขาดดุล 5.33 หมื่นล้านบาท