แมงเม้าท์เล่าอินไซด์ มาแล้วจร้าาาา มากับความผันผวนของหุ้นไทยและทั่วโลก ... ตอนนี้หลายคนคง งง ไม่รู้ว่าตกลงหุ้นไทยจะเป็น ภาวะหมี หรือ ภาวะกระทิง กันแน่ จนกระทั้งบางคนก็เรียกภาวะนี้ว่า ภาวะแรด ... คือนักลงทุนช่วงนี้ ต้องทั้งอึด ทั้งถึก ทั้งทน เพราะเดี๋ยวหุ้นก็แรดขึ้นแรง...เดี๋ยวหุ้นก็แรดลงแรง แร้ดดด แรด นะเนี่ย
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน ดัชนีหุ้นไทย ปิดที่ 1,489.53 จุด ลดลง 4.58% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม ซึ่งอยู่ที่ 1,561.06 จุด แต่อยากให้ส่องต่างชาติต่างชาติ ที่ตะลุยขายสุทธิทั้งสัปดาห์ถึง 8,971.84 ล้านบาท มีเพียงพวกรายย่อยหัวใจสู้ไม่ถอยเป็นคนเก็บกว่า 9,197 ล้านบาท ... อย่างนี้อันตราย ถ้าต่างชาติยังไม่คิดกับคืนมา
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่้ต้องดูก็คือจุดตายของ SET ที่ 1480 จุดว่าจะหลุดหรือไม่ ถ้าหลุดจบเห่ แรดวิ่งลงมีแววเห็น 1440 จุด ถ้าไม่หลุด ก็ต้องมานั้งภาวนาว่าจะปิดผ่าน 1540 จุด และ 1560 จุด หรือไม่ ถ้ายังก็ไม่เวิร์ค เพราะจิตวิทยาของนักลงทุนยังไม่ได้กลับมา
และถ้าเราไปส่องเกมหุ้นของยุโรปยังเห็นว่ายังเป็นเทรนของขาลง ขณะที่หุ้นสหรัฐ แม้ว่าจะพยายามทรงตัวในระดับสูง ดูดี ถ้ายังทำนิวไฮใหม่ คือเลย 14,684 จุดไม่ได้ก็น่ากลัว ส่วนภาคพื้นเอเชีย อย่างญี่ปุ่น แม้ว่าวันจันทร์ นิเคอิ จะโชว์ฟอร์มดีวิ่งแรง 2.80% มาปิดเลย 13,000 จุดครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551 โดยปิดที่ระดับ 13,192.59 จุด หลัง ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศอัดฉีดเม็ดเงินแหลก แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า นิเคอิ ไว้ทำสถิติการสูงสุดไว้เมื่อ 13,225 จุด ต้องผ่านให้ได้ก่อน
บอกตามตรงลงทุนช่วงนี้ ต้องทำใจ หรือ ใครทนไม่ได้ ไม่ชอบอาการแรดของหุ้น ก็ออกไปอยู่นอกตลาดก่อน ภาพออกมาชัดเจนแล้วค่อยเจอกัน ยังไม่สาย นี่คือเฉพาะนักเทรด ... แต่สำหรับ นักลงทุนระยะยาว ก็ต้องทำตามกฎของ VI ดูมูลค่าหุ้นที่คุณถือ หุหุ ความผันผวนแบบนี้แหละ จะเป็นจุดวัดใจว่า คุณจะเป็น "นักลงทุนยาว" อดทนได้หรือไม่
แถมช่วงนี้ต้องทำใจหนักเพราะ ไทยแลนด์ เองก็กำลังจะหยุดยาววว....ท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของโลกที่ยังลูกผีลูกคน ... เกาหลีเหนือที่เหิมเกริมจะไฟว้เกาหลีใต้ด้วยขีปนาวุธเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เกิดเรากำลังสาดน้ำอยู่ แล้ว เกาหลีสาดกระสุนขึ้นมา จะกระอัก รวมไปถึงการเมืองของไทยเอง คนกล้าถือหุ้นถ้าไม่ใช่ VI ต้องถือว่าใจกล้ามากๆๆ
ไปส่องนักวิเคราะห์กันดีกว่า ว่าอย่างไรกับหุ้นไทย เริ่มที่ "คุณธีรดา ชาญยิ่งยงค์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองตลาดหุ้นไทยยังเสี่ยงถ้าจะถือก็ไม่ควรให้เกิน 30% ของพอร์ต โดยคนที่จะเล่นก็น่าจะเก็งกำไรในงบการเงินงวดไตรมาสแรกในหุ้นแบงก์พาณิชย์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วย พยุงตลาดได้ แต่สิ่งที่ต้องตามหลักๆ ก็คือ เงินลงทุนของต่างชาติ ซึ่งจะเอายังไงกันแน่ ส่วนแนวรับมองไว้ที่ 1,480 และ 1,470 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,550 จุด
ส่วน "คุณปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์" ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) มองว่า สัปดาห์หนี้ตลาดหุ้นยัง อยู่ในช่วงของการสร้างฐาน ประกอบกับใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงอาจจะทำให้นักลงทุนบางส่วน ชะลอการซื้อขาย และทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดโดยรวมลดลง และปิดท้ายที่ "นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล" ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ที่มอง ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงปัญหาหนี้ยุโรปยังกดดัน ตลาดหุ้น ซึ่งสร้างความกังวลต่อการลงทุน และจะต้องติดตามการประชุมรมว.คลังของยูโรโซนในวันที่ 11-12 เม.ย.นี้ ถึงการช่วยเหลือไซปรัสจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึง ต้องติดตามการประมูลพันธบัตรของอิตาลีในวันที่ 11 เม.ย.นี้ด้วย โดยดัชนีจะมีแนวต้านที่ 1,540 และ 1,550 จุด ส่วนแนว รับอยู่ที่ 1,480 จุด ซึ่งหากหลุดแนวรับนี้โอกาสที่ดัชนีจะลงไปที่ระดับ 1,465 ได้
ถึงเวลาเม้าท์ บจ. ขอส่องกันไปที่ BLAND หุ้นที่ถูกทุบลงมา ในช่วงที่ BLAND-W2 จะหมดอายุ ... ได้ข่าวคนถือ BLAND-W2 ตายเรียบ ใครจะเชื่อหุ้นที่เคยลากไปถึง 0.30 บาท จะเหลือ แค่ 0.01 บาท ในวันสุดท้าย ... ก็จะไม่ให้ร่วงใครร่วงได้ไงก็วันสุดท้าย ราคาหุ้นแม่ BLAND ดันถูกทุบไปอยู่ต่ำกว่าราคาที่จะใช้สิทธิแปลงที่ 1.90 บาท ... จนเม่าหลายคนอาจจะหมดหวังยอมทิ้งเงิน BLAND-W2 แล้ว แต่งานนี้...มีการเมาท์มอยในตลาดว่า นี่คือเกมของเจ้า ที่มีการขายทำกำไรเพื่อเอาเงินไปแปลงวอแรนท์ และ ต้องการครองหุ้นในราคาต้นทุนต่ำเลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ส่วนใครกำลังสงสัยว่า เจ้า BLAND ต้องการให้ผู้ถือ แปลงวอแรนท์ เป็นหุ้นแม่หรือไม่ คำตอบที่แอบไปสืบทราบมาคือ ต้องการให้แปลง!!! เหตุผลง่ายๆ ก็คือ BLAND-W2 มีจำนวนกว่า 6,800 ล้านหุ้น ถ้าแปลงในราคา 1.90 บาท ก็แสดงว่าจะได้เงินเข้าบริษัทถึง 13,000 ล้านบาท กว่าจะได้เงินก้อนใหญ่แบบนี้เอาไปทำมาหากิน ไม่ใช่ง่ายนะ ใครจะยอมให้เงินก้อนใหญ่หายไป ... ท่ามกลางข่าวดีๆ ที่จะออกมาของ BLAND ที่ยังมี เช่น การเอา อิมแพ็ค มาเล่น หรือ จะเป็นการปรับมูลค่าที่ดินถนนแจ้งวัฒนะและศรีนครินทร์ พวกนี้ดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนขึ้นมาได้ไม่ยาก
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แสดงว่า จะต้องมีการเอาหุ้น BLAND ขึ้นเหนือ 1.90 บาท ไม่งั้นไม่มีคนแปลง งานนี้...ก็ลองไปส่องกันเองแล้วกันว่าเค้าจะเอาขึ้นหรือไม่และเอาขึ้นเท่าไหร่ ... แต่อย่าลืมส่องพื้นฐานด้วยก็ดีนะ เพราะถ้าแปลงวอแรนท์หมดหุ้นจะไดลูทประมาณ 37% และขอเตือนทุกท่านอ่านแล้วใช้วิจารณญาณ เพราะนี่คือการเม้าท์มอย ไม่ใช่การแนะนำหุ้น การอ่านแล้วซื้อตามโดยไม่คิด เค้าไม่ได้เรียกนักลงทุน แต่เค้าเรียกเม่านั้นแหละ ติดดอยมาจะสมน้ำหน้าให้
ก่อนจาก ขอสวัสดีปีใหม่ไทย...สำราญใจจุงเบย ทุกวันนะจร้าาาาาาาาาาาาาาาาาา รักนะจุ๊บุ จุ๊บุ
โดยเมื่อวันศุกร์ที่ 5 เมษายน ดัชนีหุ้นไทย ปิดที่ 1,489.53 จุด ลดลง 4.58% จากระดับปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 29 มีนาคม ซึ่งอยู่ที่ 1,561.06 จุด แต่อยากให้ส่องต่างชาติต่างชาติ ที่ตะลุยขายสุทธิทั้งสัปดาห์ถึง 8,971.84 ล้านบาท มีเพียงพวกรายย่อยหัวใจสู้ไม่ถอยเป็นคนเก็บกว่า 9,197 ล้านบาท ... อย่างนี้อันตราย ถ้าต่างชาติยังไม่คิดกับคืนมา
ตอนนี้สิ่งสำคัญที่้ต้องดูก็คือจุดตายของ SET ที่ 1480 จุดว่าจะหลุดหรือไม่ ถ้าหลุดจบเห่ แรดวิ่งลงมีแววเห็น 1440 จุด ถ้าไม่หลุด ก็ต้องมานั้งภาวนาว่าจะปิดผ่าน 1540 จุด และ 1560 จุด หรือไม่ ถ้ายังก็ไม่เวิร์ค เพราะจิตวิทยาของนักลงทุนยังไม่ได้กลับมา
และถ้าเราไปส่องเกมหุ้นของยุโรปยังเห็นว่ายังเป็นเทรนของขาลง ขณะที่หุ้นสหรัฐ แม้ว่าจะพยายามทรงตัวในระดับสูง ดูดี ถ้ายังทำนิวไฮใหม่ คือเลย 14,684 จุดไม่ได้ก็น่ากลัว ส่วนภาคพื้นเอเชีย อย่างญี่ปุ่น แม้ว่าวันจันทร์ นิเคอิ จะโชว์ฟอร์มดีวิ่งแรง 2.80% มาปิดเลย 13,000 จุดครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551 โดยปิดที่ระดับ 13,192.59 จุด หลัง ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศอัดฉีดเม็ดเงินแหลก แต่ก็ต้องอย่าลืมว่า นิเคอิ ไว้ทำสถิติการสูงสุดไว้เมื่อ 13,225 จุด ต้องผ่านให้ได้ก่อน
บอกตามตรงลงทุนช่วงนี้ ต้องทำใจ หรือ ใครทนไม่ได้ ไม่ชอบอาการแรดของหุ้น ก็ออกไปอยู่นอกตลาดก่อน ภาพออกมาชัดเจนแล้วค่อยเจอกัน ยังไม่สาย นี่คือเฉพาะนักเทรด ... แต่สำหรับ นักลงทุนระยะยาว ก็ต้องทำตามกฎของ VI ดูมูลค่าหุ้นที่คุณถือ หุหุ ความผันผวนแบบนี้แหละ จะเป็นจุดวัดใจว่า คุณจะเป็น "นักลงทุนยาว" อดทนได้หรือไม่
แถมช่วงนี้ต้องทำใจหนักเพราะ ไทยแลนด์ เองก็กำลังจะหยุดยาววว....ท่ามกลางความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของโลกที่ยังลูกผีลูกคน ... เกาหลีเหนือที่เหิมเกริมจะไฟว้เกาหลีใต้ด้วยขีปนาวุธเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เกิดเรากำลังสาดน้ำอยู่ แล้ว เกาหลีสาดกระสุนขึ้นมา จะกระอัก รวมไปถึงการเมืองของไทยเอง คนกล้าถือหุ้นถ้าไม่ใช่ VI ต้องถือว่าใจกล้ามากๆๆ
ไปส่องนักวิเคราะห์กันดีกว่า ว่าอย่างไรกับหุ้นไทย เริ่มที่ "คุณธีรดา ชาญยิ่งยงค์" ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) มองตลาดหุ้นไทยยังเสี่ยงถ้าจะถือก็ไม่ควรให้เกิน 30% ของพอร์ต โดยคนที่จะเล่นก็น่าจะเก็งกำไรในงบการเงินงวดไตรมาสแรกในหุ้นแบงก์พาณิชย์ ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วย พยุงตลาดได้ แต่สิ่งที่ต้องตามหลักๆ ก็คือ เงินลงทุนของต่างชาติ ซึ่งจะเอายังไงกันแน่ ส่วนแนวรับมองไว้ที่ 1,480 และ 1,470 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,550 จุด
ส่วน "คุณปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์" ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย) มองว่า สัปดาห์หนี้ตลาดหุ้นยัง อยู่ในช่วงของการสร้างฐาน ประกอบกับใกล้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จึงอาจจะทำให้นักลงทุนบางส่วน ชะลอการซื้อขาย และทำให้มูลค่าการซื้อขายของตลาดโดยรวมลดลง และปิดท้ายที่ "นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล" ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ ที่มอง ปัญหาคาบสมุทรเกาหลี รวมถึงปัญหาหนี้ยุโรปยังกดดัน ตลาดหุ้น ซึ่งสร้างความกังวลต่อการลงทุน และจะต้องติดตามการประชุมรมว.คลังของยูโรโซนในวันที่ 11-12 เม.ย.นี้ ถึงการช่วยเหลือไซปรัสจะออกมาเป็นอย่างไร รวมถึง ต้องติดตามการประมูลพันธบัตรของอิตาลีในวันที่ 11 เม.ย.นี้ด้วย โดยดัชนีจะมีแนวต้านที่ 1,540 และ 1,550 จุด ส่วนแนว รับอยู่ที่ 1,480 จุด ซึ่งหากหลุดแนวรับนี้โอกาสที่ดัชนีจะลงไปที่ระดับ 1,465 ได้
ถึงเวลาเม้าท์ บจ. ขอส่องกันไปที่ BLAND หุ้นที่ถูกทุบลงมา ในช่วงที่ BLAND-W2 จะหมดอายุ ... ได้ข่าวคนถือ BLAND-W2 ตายเรียบ ใครจะเชื่อหุ้นที่เคยลากไปถึง 0.30 บาท จะเหลือ แค่ 0.01 บาท ในวันสุดท้าย ... ก็จะไม่ให้ร่วงใครร่วงได้ไงก็วันสุดท้าย ราคาหุ้นแม่ BLAND ดันถูกทุบไปอยู่ต่ำกว่าราคาที่จะใช้สิทธิแปลงที่ 1.90 บาท ... จนเม่าหลายคนอาจจะหมดหวังยอมทิ้งเงิน BLAND-W2 แล้ว แต่งานนี้...มีการเมาท์มอยในตลาดว่า นี่คือเกมของเจ้า ที่มีการขายทำกำไรเพื่อเอาเงินไปแปลงวอแรนท์ และ ต้องการครองหุ้นในราคาต้นทุนต่ำเลยเกิดเหตุการณ์แบบนี้
ส่วนใครกำลังสงสัยว่า เจ้า BLAND ต้องการให้ผู้ถือ แปลงวอแรนท์ เป็นหุ้นแม่หรือไม่ คำตอบที่แอบไปสืบทราบมาคือ ต้องการให้แปลง!!! เหตุผลง่ายๆ ก็คือ BLAND-W2 มีจำนวนกว่า 6,800 ล้านหุ้น ถ้าแปลงในราคา 1.90 บาท ก็แสดงว่าจะได้เงินเข้าบริษัทถึง 13,000 ล้านบาท กว่าจะได้เงินก้อนใหญ่แบบนี้เอาไปทำมาหากิน ไม่ใช่ง่ายนะ ใครจะยอมให้เงินก้อนใหญ่หายไป ... ท่ามกลางข่าวดีๆ ที่จะออกมาของ BLAND ที่ยังมี เช่น การเอา อิมแพ็ค มาเล่น หรือ จะเป็นการปรับมูลค่าที่ดินถนนแจ้งวัฒนะและศรีนครินทร์ พวกนี้ดึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนขึ้นมาได้ไม่ยาก
ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แสดงว่า จะต้องมีการเอาหุ้น BLAND ขึ้นเหนือ 1.90 บาท ไม่งั้นไม่มีคนแปลง งานนี้...ก็ลองไปส่องกันเองแล้วกันว่าเค้าจะเอาขึ้นหรือไม่และเอาขึ้นเท่าไหร่ ... แต่อย่าลืมส่องพื้นฐานด้วยก็ดีนะ เพราะถ้าแปลงวอแรนท์หมดหุ้นจะไดลูทประมาณ 37% และขอเตือนทุกท่านอ่านแล้วใช้วิจารณญาณ เพราะนี่คือการเม้าท์มอย ไม่ใช่การแนะนำหุ้น การอ่านแล้วซื้อตามโดยไม่คิด เค้าไม่ได้เรียกนักลงทุน แต่เค้าเรียกเม่านั้นแหละ ติดดอยมาจะสมน้ำหน้าให้
ก่อนจาก ขอสวัสดีปีใหม่ไทย...สำราญใจจุงเบย ทุกวันนะจร้าาาาาาาาาาาาาาาาาา รักนะจุ๊บุ จุ๊บุ