โบรกฯ แนะจับตา “ป.ป.ช.” ชี้ชะตาคดีเงินกู้ 30 ล้านบาท สามีนอกสมรส นายกฯ “ปู” ยอมรับมีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย และเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศมากกว่าปัจจัย ศก. ต่างประเทศ เปิดภาคเช้าดัชนีร่วงกว่า 38 จุด หลุดระดับ 1,500 จุด
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) โดยมองว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET INDEX) ยังไร้ทิศทาง มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพื่อรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อกรณี 30 ล้านบาท ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะเห็นผลการประชุมในช่วงเย็นวันนี้
โดยประเด็นดังกล่าวถือว่ามีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย และเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศเป็นสำคัญ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในวันนี้ดูจะมีน้ำหนักกับตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด แม้จะมีการประชุมธนาคารกลางต่างๆ เช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นกรณีการให้เงินกู้ 30 ล้านบาท แก่คู่สมรสของนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ป.ป.ช. วันนี้จะพิจารณากรณีดังกล่าวว่า จะมีมูลเพียงพอต่อการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไปหรือไม่ ซึ่งถือเป็นจุดที่ชี้นำความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากผลการพิจารณารับคำร้อง และยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ย่อมกดดันให้ SET INDEX มีโอกาสหลุดแนว 1,500 จุด ลงไปเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480 จุด หรือหากผลการพิจารณาไม่รับคำร้อง ย่อมทำให้ความกังวลต่อนักลงทุนผ่อนคลาย และสร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวก SET INDEX จะดีดกลับสู่แนว 1,540-1,550 จุด
ด้านภาวะหุ้นไทย วันนี้ เปิดตลาดภาคเช้าดัชนีปักหัวลงแรงกว่า 38 จุด โดยเมื่อเวลา 10.22 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,493.96 จุด ลดลง 26.56 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.75% มูลค่าการซื้อขาย 9,973.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,496.27 จุด ลดลง 24.25 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.59% มูลค่าการซื้อขาย 28,338.85 ล้านบาท
นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (4 เม.ย.) โดยมองว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET INDEX) ยังไร้ทิศทาง มูลค่าการซื้อขายเบาบาง เพื่อรอดูผลการประชุมของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อกรณี 30 ล้านบาท ของนายกรัฐมนตรี ซึ่งน่าจะเห็นผลการประชุมในช่วงเย็นวันนี้
โดยประเด็นดังกล่าวถือว่ามีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทย และเป็นปัจจัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศเป็นสำคัญ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศในวันนี้ดูจะมีน้ำหนักกับตลาดหุ้นไทยอย่างจำกัด แม้จะมีการประชุมธนาคารกลางต่างๆ เช่น ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้
นักวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ได้ให้น้ำหนักกับประเด็นกรณีการให้เงินกู้ 30 ล้านบาท แก่คู่สมรสของนายกรัฐมนตรี คณะกรรมการ ป.ป.ช. วันนี้จะพิจารณากรณีดังกล่าวว่า จะมีมูลเพียงพอต่อการยื่นฟ้องต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไปหรือไม่ ซึ่งถือเป็นจุดที่ชี้นำความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งใน และต่างประเทศ
ทั้งนี้ หากผลการพิจารณารับคำร้อง และยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญต่อไป ย่อมกดดันให้ SET INDEX มีโอกาสหลุดแนว 1,500 จุด ลงไปเคลื่อนไหวในกรอบ 1,480 จุด หรือหากผลการพิจารณาไม่รับคำร้อง ย่อมทำให้ความกังวลต่อนักลงทุนผ่อนคลาย และสร้างบรรยากาศการลงทุนเชิงบวก SET INDEX จะดีดกลับสู่แนว 1,540-1,550 จุด
ด้านภาวะหุ้นไทย วันนี้ เปิดตลาดภาคเช้าดัชนีปักหัวลงแรงกว่า 38 จุด โดยเมื่อเวลา 10.22 น. ดัชนีปรับลงไปที่ระดับ 1,493.96 จุด ลดลง 26.56 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.75% มูลค่าการซื้อขาย 9,973.05 ล้านบาท
ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยปิดตลาดครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,496.27 จุด ลดลง 24.25 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -1.59% มูลค่าการซื้อขาย 28,338.85 ล้านบาท