xs
xsm
sm
md
lg

ระวังก๊าซพม่าหยุดจ่ายวันแรก เกาะติดลาดพร้าว-รัชดา-บางกะปิจุดเสี่ยง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


วันนี้ “วอร์รูม กฟผ.” คึกคัก ทุกฝ่ายเฝ้าระวังการหยุดจ่ายก๊าซพม่าวันแรก “รมว.พลังงาน” นั่งประธานบัญชาการ มั่นใจทุกฝ่ายร่วมมือดันสำรองพุ่งเกินคาดหมายทำให้มั่นใจว่าจะรับมืออยู่ จุดเสี่ยงไฟดับลาดพร้าว-รัชดาฯ-บางกะปิ ไร้กังวล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บางกรวย เต็มไปด้วยความคักคักที่ทุกฝ่ายทั้งสื่อมวลชนทุกแขนง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะร่วมกันติดตามสถานการณ์การหยุดจ่ายก๊าซพม่าระหว่าง 5-14 เม.ย. ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันแรกในการหยุดจ่ายก๊าซฯ ที่จะหายไปจากระบบ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน และส่งผลให้ไฟฟ้าหายไปจากระบบ 4,100 เมกะวัตต์ แต่วันนี้มีสำรองต่ำเพียง 676 เมกะวัตต์ โดยปกติสำรองควรอยู่ที่ 1,200 เมกะวัตต์ ทำให้นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานมีคำสั่งให้ทุกฝ่ายช่วยกันจัดหาไฟให้เพียงพอและขอความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมในการลดใช้ไฟฟ้าในวันนี้เพื่อป้องกันความเสี่ยงไฟฟ้าตก และดับในบางพื้นที่

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ตนจะเข้าไปนั่งเป็นประธานในการบัญชาการที่ห้องประชุมปฏิบัติการพิเศษ หรือวอร์รูม ที่สำนักงานใหญ่ กฟผ. เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป เพื่อติดตามสถานการณ์ในภาพรวม และเตรียมสั่งแก้ไขหากเกิดวิกฤตพลังงานไฟฟ้าฉุกเฉินขึ้นมาแบบกะทันหัน แม้ว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน, กฟผ. ตลอดจนภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมมือกันจัดทำมาตรการประหยัดไฟฟ้า ทำให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองในวันที่ 5 เม.ย.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ1,667 เมกะวัตต์ ทำให้มั่นใจว่าในวันที่ 5 เม.ย.นี้จะไม่เกิดปัญหาไฟฟ้าตกหรือดับ หรือต้องดับไฟฟ้าในบางพื้นที่อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ สำหรับพื้นที่เสี่ยงเกิดปัญหาไฟฟ้าตกหรือดับ 3 พื้นที่ ที่ประกอบด้วย บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตบางส่วน, พื้นที่ถนนรัชดาภิเษก และถนนลาดพร้าวบางส่วน, พื้นที่เขตบางกะปิโดยเฉพาะแขวงคลองตัน พบว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ทำการสลับสายส่งไฟฟ้าแรงสูงจากพื้นที่อื่นๆที่มีปริมาณไฟฟ้าเพียงพอ เข้ามาชดเชยกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ทำให้พื้นที่ดังกล่าวถูกถอดจากบัญชีพื้นที่เสี่ยงไฟฟ้าตกหรือดับเรียบร้อยแล้ว

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ตนเป็นห่วงสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยว่าอาจเกิดปัญหาขึ้นในระหว่างวันที่ 9-10 เม.ย.นี้แทน เนื่องจากมาตรการรณรงค์ประหยัดการใช้ไฟฟ้าในวันที่ 5 เม.ย.ได้ผ่านพ้นวิกฤตไปแล้ว จึงอยากขอความร่วมมือกับประชาชน ภาคเอกชน โรงงานอุตสาหกรรม ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ ช่วยกันประหยัดไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 9-10 เม.ย.เพราะอาจเกิดกรณีที่เมื่อเกิดความร่วมมือกันประหยัดไฟฟ้าในวันที่ 5 เม.ย.นี้ แต่อาจเกิดกระแสการใช้ไฟฟ้าโดยไม่มีการประหยัดขึ้นในวันที่ 9-10 เม.ย.นี้แทน ซึ่งอาจทำให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองไม่เพียงพอขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง โดยล่าสุดปริมาณไฟฟ้าสำรองในวันที่ 9-10 เม.ย.อยู่ที่ 1,440 เมกะวัตต์ ที่แม้ว่าจะเพียงพอไม่ให้เกิดปัญหาไฟฟ้าตกไฟฟ้าดับ แต่อยากขอความร่วมมือให้ช่วยกันประหยัดอีกรอบหนึ่ง
กำลังโหลดความคิดเห็น