xs
xsm
sm
md
lg

พาณิชย์ตั้งเป้าปั้น SMEs ปีละ 500 ราย ดันโกอินเตอร์เพื่อเพิ่มยอดส่งออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“พาณิชย์” ตั้งเป้าดัน SMEs โกอินเตอร์ปีละ 500 ราย หวังช่วยเสริมยอดส่งออก หลัง ครม.อนุมัติให้ใช้เงินกองทุนส่งออกได้ปีละ 100 ล้านบาท 3 ปี ยันบาทแข็งยังไม่กระทบส่งออก แต่จับตาปัจจัยเสี่ยงใกล้ชิด ทั้งสงครามเกาหลี เงินบาท เศรษฐกิจคู่ค้า มาตรการกีดกัน ก่อนประเมินเป้าส่งออกอีกครั้ง พ.ค.นี้

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปีนี้กรมฯ มีแผนที่จะผลักดันและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) มีความเข้มแข็ง สามารถออกไปทำตลาดต่างประเทศได้ โดยจะใช้เงินสนับสนุนจากกองส่งเสริมเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติให้ใช้เงินจำนวนปีละ 100 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี เพื่อจัดทำโครงการ SMEs Proactive ทำให้มีเม็ดเงินที่จะทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากขึ้นจากเดิมที่มีเงินเพื่อช่วยเหลือ SMEs เพียงปีละ 15 ล้านบาท

ทั้งนี้ กรมฯ ได้ตั้งเป้าว่าจะผลักดันให้ SMES เป็นผู้ส่งออกที่เข้มแข็งได้ปีละ 500 ราย โดยมีตลาดเป้าหมายที่จะผลักดัน ได้แก่ ตลาดอาเซียนและคู่เจรจาของอาเซียนทั้ง 6 ประเทศ คือ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย และตลาดรองหรือตลาดใหม่ๆ ในตลาดหลัก ทั้งยุโรปและสหรัฐฯ

“ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการกำหนดหลักเกณฑ์ว่า SMEs รายใดสามารถเข้ามาร่วมโครงการ SMEs Proactive ได้บ้าง และรูปแบบกิจกรรมควรเป็นอย่างไร เพราะไม่ต้องการให้มีเฉพาะการออกงานแสดงสินค้าเท่านั้น” นางศรีรัตน์กล่าว

นางศรีรัตน์กล่าวว่า สำหรับปัญหาเงินบาทแข็งค่า ขณะนี้ยังไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อการส่งออก แต่หากสถานการณ์เลวร้ายกว่านี้จะกระทบต่อการส่งออกอย่างแน่นอน โดยเบื้องต้นได้มีการหารือกับผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด และจับตามทิศทางเงินบาทต่อเนื่อง เพื่อส่งสัญญาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหา หากสถานการณ์เงินบาทกระทบต่อการส่งออก

ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะมีผลกระทบต่อการส่งออก มีปัจจัยที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เช่น สถานการณ์สงครามคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งขณะนี้ยังไม่กระทบต่อการส่งออกและการค้าการลงทุนโดยรวม แต่ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ยังมั่นใจว่าการค้าระหว่างไทยและเกาหลีใต้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายใน 5 ปีได้ตามเป้าหมาย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การกีดกันทางการค้า ซึ่งกำลังจะส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างประเทศ เพราะประเทศผู้นำเข้าได้มีการนำมาตรการกีดกันทางการค้ามาใช้เพื่อชดเชยการลดภาษีจากการเปิดเสรีทางการค้า การแข็งค่าของเงินบาท และภาวะเศรษฐกิจในตลาดสำคัญๆ ซึ่งประเมินว่าจะยังชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งได้สั่งการให้ทูตพาณิชย์รวบรวมข้อมูลเศรษฐกิจและการค้าเป็นรายตลาด ก่อนนำมาประชุมร่วมกันในปลายเดือน พ.ค. ซึ่งขณะนี้ยังคงเป้าหมายการส่งออกทั้งปีขยายตัว 8-9% มูลค่า 2.6 แสนล้านบาทไว้ก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น