ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บสย.สงขลา ร่วมมือกับ 3 สภาธุรกิจ จ.สงขลา ประสานความร่วมมือเปิดช่องทางเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs สามารถต่อยอดทางเศรษฐกิจ และขยายตลาดรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เผยพื้นที่ 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง บสย.ค้ำประกันสินเชื่อในปีที่แล้ว 4,783 ราย วงเงิน 13,057 ล้านบาท
วันนี้ (7 มี.ค.) ที่โรงแรมหรรษา เจ.บี.หาดใหญ่ นายเอกพร นิโรจน์ ผู้จัดการสำนักงานสาขาอาวุโส สำนักงานสาขาสงขลา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.ร่วมกับ 3 สภาองค์กรธุรกิจใน จ.สงขลา ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัด ประสานความร่วมมือเพื่อรับทราบปัญหา และข้อจำกัดของผู้ประกอบการธุรกิจที่เป็นสมาชิกของทั้ง 3 สภา เพื่อนำมากำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหา และสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และได้รับสินเชื่อจากสถาบันการเงินได้เพิ่มขึ้นและง่ายขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs
ทั้งนี้ นายเอกพร นิโรจน์ ผู้จัดการสำนักงานสาขาอาวุโส สำนักงานสาขาสงขลา บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ บสย.สำนักงานสาขาสงขลา ซึ่งรับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง คือ สงขลา นครศรีธรรมราช ตรัง พัทลุง สตูล ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ในสิ้นปีที่แล้วให้การค้ำประกันสินเชื่อในพื้นที่รวมทั้งสิ้น 4,783 ราย คิดเป็นวงเงินค้ำประกัน 13,057 ล้านบาท ทำให้ผู้ประกอบการ SMEs ได้รับสินเชื้อไปแล้วมากกว่า 19,553 ล้านบาท โดยในจำนวนนี้ ได้ค้ำประกันให้แก่ผู้ประกอบการใน จ.สงขลา จำนวน 1,694 ราย คิดเป็นวงเงินค้ำประกันสินเชื่อ 5,562 ล้านบาท
“นอกจากนี้ บสย.ยังมีโครงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จัดเป็นรูปแบบคลินิกให้คำปรึกษาแก่ SMEs เป็นรายบุคคล เพื่อช่วยเหลือ SMEs ที่มีศักยภาพให้สามารถเข้าถึงแหลงเงินทุนได้ ซึ่งโครงการนี้ได้ดำเนินกิจการรมมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 โดยในปีนี้ สำนักงานสาขาสงขลาจะดำเนินการจัดโครงการนี้ครั้งที่ 1 ช่วงเดือนพฤษภาคม นี้ จ.สงขลา และครั้งที่ 2 จัดในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ จ.นครศรีธรรมราช สำหรับผลิตภัณฑ์ค้ำประกันในปีนี้ได้แก่ โครงการ P0rtfolio Guarantee Scheme และระยะที่ 5 โครงการค้ำประกันสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการใหม่ โครงการ PGS รายสถาบันการเงิน และโครงการ PGS-PIL เป็นต้น"
ขณะที่เสียงสะท้อนจากตัวแทนสภาองค์กรธุรกิจทั้ง 3 สภา เช่น นายสมบูรณ์ พฤกษานุศักดิ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.สงขลา และนายบุญช่วย จังศิริวัฒนธำรงค์ รองประธานหอการ จ.สงขลา กล่าวตรงกันว่า ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ยังจำเป็นต้องเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อนำมาขยายกิจการรองรับเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ซึ่งจะมีการแข่งขันกันสูง เนื่องจากส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของเงินทุนหากต้องการกู้กับสถาบันการเงินโดยตรงเนื่องจากต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน นอกเหนือจากการแบกรับภาระจากการปรับค่าแรง และปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคอุตสาหกรรม
โดยเฉพาะใน จ.สงขลา ซึ่งมีโรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการทั้งสิ้น 1,752 โรงงาน ส่วนใหญ่เป็นโรงงานขนาดเล็ก ใช้เงินลงทุนน้อยกว่า 10 ล้านบาท จำนวน 855 โรงงาน รองลงมาเป็นโรงงานขนาดกลาง เงินลงทุนมากกว่า 10 ล้านบาทถึง 100 ล้านบาท 278 โรงงาน และโรงงานขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท 81 โรงงาน ซึ่งการเข้ามาสนับสนุนของ บสย.ในการช่วยค้ำประกันสินเชื่อจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น