xs
xsm
sm
md
lg

“กิตติรัตน์” ยันไม่ใช้แคปปิตอลคอนโทรลดูแลค่าบาท และมาตรการภาษีที่จะกระทบผลตอบแทนการลงทุน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“กิตติรัตน์” ยืนยันรัฐบาลจะไม่ใช้วิธีควบคุมการไหลเข้า-ออกของเงินตราต่างประเทศ (แคปปิตอลคอนโทรล) เพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งโดยเด็ดขาด แต่จะใช้กลไกบริหารนโยบายการเงิน และยืนยันว่าไม่มีแนวทางจะใช้มาตรการภาษีที่จะมีผลกระทบต่อผลตอบแทนการลงทุนด้วย

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำวันละ 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน โดยระบุว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความเป็นห่วงต่อสถานการณ์เงินบาทแข็งค่า รวมทั้งที่ประชุมทุกคนต่างมีความเป็นห่วงในเรื่องนี้ และต้องการเห็นเงินบาทที่มีเสถียรภาพ

ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ จึงมอบหมายให้กระทรวงการคลังไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ร่วมกับนักเศรษฐศาสตร์และนักการเงิน

“ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ อ.พันศักดิ์ ดร.โกร่ง และเลขาฯ สภาพัฒน์เห็นตรงกันว่าน่าจะมีการปรึกษากันเฉพาะนักเศรษฐศาสตร์ หรือนักการเงินว่าจำเป็นต้องดำเนินนโยบายทางการเงินอย่างไร ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้ผมไปหารือกับ ธปท.และ กนง.” นายกิตติรัตน์กล่าว

นอกจากนี้ ยืนยันว่าจะไม่ใช้วิธีควบคุมการไหลเข้า-ออกของเงินตราต่างประเทศ (แคปปิตอลคอนโทรล) เพื่อแก้ปัญหาเงินบาทแข็งโดยเด็ดขาด แต่จะใช้กลไกบริหารนโยบายการเงิน และยืนยันว่าไม่มีแนวทางจะใช้มาตรการภาษีที่จะมีผลกระทบกต่อผลตอบแทนการลงทุนด้วย

ขณะที่นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการติดตามช่วยเหลือ SMEs ได้รายงานว่า เบื้องต้นจะเชิญผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมเป็นกรรมการเพิ่มเติม เช่น รมว.อุตสาหกรรม, รมว.พาณิชย์, กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อเข้ามาช่วยดูแล รวมทั้งการทำงานร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยด้วย ตลอดจนสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และให้ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เข้ามาช่วยรับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่มีอยู่ในขณะนี้ยังไม่พบสัญญาณผิดปกติ แต่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเตรียมความพร้อมที่จะรองรับหากมีปัญหาเกิดขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น