อสมท หยอด กสทช.ของบ 10 ล้านบาท เป็นเจ้าภาพจัดงาน “Go Go Digital Thailand 2003 : Gearing up for ASEAN Digitization” 25-28 ก.ค นี้ มั่นใจผู้ประกอบการตบเท้าร่วมงานทั้งไทยและเทศไม่ต่ำกว่า 50 ราย หวังเป็นเวทีเพื่อภาคประชาชน รับประโยชน์กับการรับแจกแลกซื้อกล่องดิจิตอลทีวีในคราวเดียว มั่นใจผู้คนให้การตอบรับล้นหลาม
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทาง อสมท ได้ร่วมกับทาง กสทช ทรูวิชั่นส์ และช่อง 3 ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Go Go Digital Thailand 2003 : Gearing up for ASEAN Digitization 25-28 ก.ค นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในธุรกิจสื่อสาร
โดยภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. นิทรรศการและการแสดงอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อ 2. การประชุมสัมมนาในหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาการออกอากาศในอนาคตบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์และตลาดบันเทิง ซึ่ง อสมท ตั้งเป้าให้เป็นงานใหญ่ระดับอาเซียนเทียบเท่างานบรอดคาสต์เอเชีย ในประเทศสิงคโปร์ และพัฒนาต่อถึงระดับโลกเทียบชั้น NAB SHOW ในสหรัฐอเมริกาต่อไป
ด้านนายพลชัย วินิจฉัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักทรัพยากรมนุษย์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานการจัดงานฯ กล่าวเสริมว่า เบื้งต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจัดงานกว่า 50 รายทั้งไทยและเทศ โดยแบ่งเป็นรายใหญ่ราว 15 ราย และรายเล็ก 35 ราย คิดเป็นจำนวนบูทไม่ต่ำกว่า 50 บูทเช่นกัน บนพื้นที่กว่า 4,600 ตารางเมตร ภายใต้งบการจัดงานที่ขอทางกสทชไป 10 ล้านบาท มองว่าน่าจะคุ้มทุนและมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม
“โดยเฉพาะภาคประชาชน ที่อาจจะมีการแจกคูปองแลกกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีจาก กสทช. หรือมีพื้นที่เปิดให้ซื้อขายกล่องรับสัญญาณต่อในงาน จึงมั่นใจว่าจะได่รับการตอบรับเข้าร่วมชมภายในงานค่อนข้างสูง ซึ่งทางอสมทขอดูความสำเร็จจากการจัดงานครั้งนี้ก่อน เพื่อนำไปสู่การจัดงานครั้งต่อไปที่วางแผนไว้ว่สจะจัดต่อแบบปีเว้นปี”
ดีเดย์ 9 เม.ย ปล่อยสัญญาณดิจิตอลเฟส 2
ด้านนายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 เม.ยนี้ อสมทพร้อมทดลองการออกอากาศแบบดิจิตอลเฟส 2 ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ และปริมณฑลรับชมได้อย่างคมชัดมากขึ้น ซึ่งการทดลองการออกอากาศครั้งนี้รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ช่อง ประกอบด้วย ช่องรายการของอสมทและช่องสาธารณะของภาครัฐ ที่เข้าร่วมทดลองการออกอากาศด้วย เช่น ช่องรัฐสภา, ช่องตำรวจ, ช่องการศึกษาของทางกระทรวงศึกษาธิการ, ช่องสาธารณะสุข เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงข่ายนั้นทางอสมทพร้อมให้ข้อมูลกับทาง กสทช.ต่อเนื่อง เพื่อต้องการนำไปสู่โครงข่ายเดียว อันจะนำมาซึ่งต้นทุนค่าเช่าโครงข่ายที่ถูกลงของเจ้าของช่องรายการที่จะขอสัมปทานกับทาง กสทช.หลังจากนี้ โดยมองว่าประโยชน์ของการมีโครงข่ายเดียว คือ 1. ช่วยลดค่าใช้จ่าย 2. คืนธรรมชาติสู่ประเทศ จากการที่ไม่ต้องมีเสาสัญญาณบนป่าเขามากจนเกินไป และ 3. ต้นทุนของผู้เช่าเครือข่ายก็จะถูกลง ทั้งนี้ทางอสมทยังได้มีการพูดคุยกับทางช่อง 5 ที่ต้องการเป็นผู้ให้เช่าโครงข่ายเช่นเดียวกัน เพื่อนำไปสู่นโยบายโครงข่ายเดียว ทั้งนี้ต้องรอดูการตอบรับของช่อง 5 และ กสทช.ต่อไป ว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร
นายเอนก เพิ่มวงศ์เสนีย์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ทาง อสมท ได้ร่วมกับทาง กสทช ทรูวิชั่นส์ และช่อง 3 ในการเป็นเจ้าภาพจัดงาน Go Go Digital Thailand 2003 : Gearing up for ASEAN Digitization 25-28 ก.ค นี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นครั้งแรกที่จัดขึ้นในประเทศไทย เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในธุรกิจสื่อสาร
โดยภายในงานแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ 1. นิทรรศการและการแสดงอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อ 2. การประชุมสัมมนาในหัวข้อเกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาการออกอากาศในอนาคตบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์และตลาดบันเทิง ซึ่ง อสมท ตั้งเป้าให้เป็นงานใหญ่ระดับอาเซียนเทียบเท่างานบรอดคาสต์เอเชีย ในประเทศสิงคโปร์ และพัฒนาต่อถึงระดับโลกเทียบชั้น NAB SHOW ในสหรัฐอเมริกาต่อไป
ด้านนายพลชัย วินิจฉัยกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สำนักทรัพยากรมนุษย์ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานการจัดงานฯ กล่าวเสริมว่า เบื้งต้นคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมจัดงานกว่า 50 รายทั้งไทยและเทศ โดยแบ่งเป็นรายใหญ่ราว 15 ราย และรายเล็ก 35 ราย คิดเป็นจำนวนบูทไม่ต่ำกว่า 50 บูทเช่นกัน บนพื้นที่กว่า 4,600 ตารางเมตร ภายใต้งบการจัดงานที่ขอทางกสทชไป 10 ล้านบาท มองว่าน่าจะคุ้มทุนและมีจำนวนผู้เข้าร่วมงานอย่างล้นหลาม
“โดยเฉพาะภาคประชาชน ที่อาจจะมีการแจกคูปองแลกกล่องรับสัญญาณดิจิตอลทีวีจาก กสทช. หรือมีพื้นที่เปิดให้ซื้อขายกล่องรับสัญญาณต่อในงาน จึงมั่นใจว่าจะได่รับการตอบรับเข้าร่วมชมภายในงานค่อนข้างสูง ซึ่งทางอสมทขอดูความสำเร็จจากการจัดงานครั้งนี้ก่อน เพื่อนำไปสู่การจัดงานครั้งต่อไปที่วางแผนไว้ว่สจะจัดต่อแบบปีเว้นปี”
ดีเดย์ 9 เม.ย ปล่อยสัญญาณดิจิตอลเฟส 2
ด้านนายสุระ เกนทะนะศิล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวด้วยว่า ในวันที่ 9 เม.ยนี้ อสมทพร้อมทดลองการออกอากาศแบบดิจิตอลเฟส 2 ซึ่งจะทำให้กรุงเทพฯ และปริมณฑลรับชมได้อย่างคมชัดมากขึ้น ซึ่งการทดลองการออกอากาศครั้งนี้รวมแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ช่อง ประกอบด้วย ช่องรายการของอสมทและช่องสาธารณะของภาครัฐ ที่เข้าร่วมทดลองการออกอากาศด้วย เช่น ช่องรัฐสภา, ช่องตำรวจ, ช่องการศึกษาของทางกระทรวงศึกษาธิการ, ช่องสาธารณะสุข เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงข่ายนั้นทางอสมทพร้อมให้ข้อมูลกับทาง กสทช.ต่อเนื่อง เพื่อต้องการนำไปสู่โครงข่ายเดียว อันจะนำมาซึ่งต้นทุนค่าเช่าโครงข่ายที่ถูกลงของเจ้าของช่องรายการที่จะขอสัมปทานกับทาง กสทช.หลังจากนี้ โดยมองว่าประโยชน์ของการมีโครงข่ายเดียว คือ 1. ช่วยลดค่าใช้จ่าย 2. คืนธรรมชาติสู่ประเทศ จากการที่ไม่ต้องมีเสาสัญญาณบนป่าเขามากจนเกินไป และ 3. ต้นทุนของผู้เช่าเครือข่ายก็จะถูกลง ทั้งนี้ทางอสมทยังได้มีการพูดคุยกับทางช่อง 5 ที่ต้องการเป็นผู้ให้เช่าโครงข่ายเช่นเดียวกัน เพื่อนำไปสู่นโยบายโครงข่ายเดียว ทั้งนี้ต้องรอดูการตอบรับของช่อง 5 และ กสทช.ต่อไป ว่าจะมีนโยบายออกมาอย่างไร
