“ดอกบัวคู่” ปรับทัพ “โมเดิร์นเทรด” พร้อมแตกไลน์สินค้าเจาะกลุ่มบน

ASTV ผู้จัดการรายวัน - เปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมแบรนด์ใหม่ “ทวินโลตัส เฮอร์เบิ้ลลิตส์” (Twin Lotus Herbaliste) เน้นทำตลาดระดับพรีเมียม เตรียมใช้งบประมาณการตลาด 100 ล้านบาท พัฒนาช่องทางการจำหน่ายผ่านโมเดิร์นเทรด พร้อมจัดกิจกรรมต่างๆ ให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาดยาสีฟันสมุนไพรเป็น 33% ในปี 2556

นายปีติ ลีเลิศพันธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ดอกบัวคู่ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2555 บริษัทมีรายได้ทั้งสิ้นประมาณ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็นยาสีฟันสมุนไพรประมาณ 90% ส่วนที่เหลือคือน้ำยาบ้วนปาก แปรงสีฟัน สบู่ แชมพู และครีมนวดผม โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 15%

สำหรับภาพรวมของตลาดยาสีฟันมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องประมาณ 4% ต่อปี โดยในปี 2555 มีมูลค่ารวมประมาณ 7,500 ล้านบาท ส่วนในเซกเม้นต์ตลาดยาสีฟันสมุนไพรมีมูลค่าประมาณ 1,600 ล้านบาทผู้นำตลาดยังคงเป็นคอลเกตซึ่งมีส่วนแบ่ง 55% รองลงมาคือดอกบัวคู่ มีส่วนแบ่งประมาณ 28% โดยคาดว่าในปี 2556 จะมีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 11% หรือเติบโตขึ้นประมาณ 8% จากตลาดรวมยาสีฟัน

“ตลาดยาสีฟันมีภาวะการแข่งขันที่สูงมากและมีอัตราเติบโตในเชิงมูลค่า จึงทำให้ผู้ประกอบการแต่ละรายต้องหันมาทำตลาดผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงมากขึ้นในลักษณะ Fubctional เช่นเดียวกับดอกบัวคู่ที่ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในชื่อแบรนด์ใหม่ คือ ทวินโลตัส เฮอร์เบิ้ลลิตส์ หรือTwin Lotus Herbaliste โดยกำหนด Positioning ให้เป็น Herbal Care Innovation พร้อมกับ Goodness of Nature เพื่อเน้นตลาดกลุ่มผู้บริโภคระดับบนที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายระหว่างชาย-หญิงในสัดส่วน 60:40 พร้อมวางเป้าหมายว่าจะสามารถทำส่วนแบ่งการตลาดได้ประมาณ 4% หรือเพิ่มเป็น 32-33% ในตลาดยาสีฟันสมุนไพร โดยได้เริ่มทำตลาดและจำหน่ายแล้วตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.ที่ผ่านมา”

การพัฒนาผลิตภัณฑ์ทวินโลตัส เฮอร์เบิ้ลลิตส์ดังกล่าว เป็นความร่วมมือกับบริษัท Takasago International Corporation ประเทศญี่ปุ่น ในการพัฒนาเทคโนโลยี Transatak ซึ่งเป็นการสกัดคุณค่าสำคัญจากสมุนไพรธรรมชาตินานาชนิด ผสมผสานกับส่วนผสมสำคัญ คือ ผงถ่าน Active Charcoal จากกะลามะพร้าว ทำให้มีคุณสมบัติเด่นในการดูดซับและแก้ปัญหากลิ่นปากทำให้ลมหายใจหอมเย็นสดชื่นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยบริษัทได้ร่วมพัฒนามาเป็นเวลาประมาณ 3 ปีด้วยงบประมาณ 40 ล้านบาท

“ในปี 2555 บริษัทฯ ได้กำหนดงบประมาณ 100 ล้านบาทในการจัดกิจกรรมทางการตลาดเพื่อเข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค โดยจะทำกิจกรรมผ่านโรงภาพยนตร์ ดนตรี และแฟชั่น รวมถึงกิจกรรมส่งเสริมการขายในทุกช่องทาง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์และยังตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ”

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังผู้บริโภคนั้นจะเน้นทำตลาด Modern Trade เพิ่มมากขึ้นหลังจากที่สามารถทำยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 10% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยจะให้ความสำคัญเพิ่มขึ้นเป็น 40% รองลงมาคือ Traditional Trade ประมาณ 30% และ Wholesales รวมถึงหน่วยรถเข็น ประมาณ 20%

ส่วนตลาดต่างประเทศซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 10-15% นั้น บริษัทฯ ได้เริ่มขยายตลาดไปสู่ประเทศต่างๆ เช่น จีน เวียดนาม กัมพูชา ลาว กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง รวมถึงรัสเซีย สหรัฐอเมริกา อิตาลี เยอรมนี และอังกฤษ นอกจากนี้ขณะนี้บริษัทกำลังจะเริ่มทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น ทั้งในลักษณะการส่งออกและรับจ้างผลิตในรูปแบบของ OEM

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตยาสีฟันประมาณวันละ 10 ตัน โดยสามารถเพิ่มการผลิตได้เต็มอัตราการผลิตคือประมาณวันละ 30 ตัน