“พาณิชย์” จับตา 10 สินค้าเกษตร หลังมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นช่วงหน้าแล้ง สั่งเตรียมพร้อม เชื่อมโยงผักถูกจากสวนถึงมือผู้บริโภค พร้อมสั่งเลหลังร้านค้าถูกใจให้ อคส.ดูแล หลังหมดงบประมาณ
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแผนการดูแลราคาสินค้าในช่วงหน้าแล้งว่า ได้เฝ้าจับตาราคาสินค้าเกษตรกร 10 รายการที่มักเกิดปัญหาผลผลิตลดลง และราคาสูงในช่วงหน้าร้อน เช่น มะนาว ผักบุ้ง ผักชี กวางตุ้ง หัวไชเท้า และผักกาดขาว โดยมีแผนที่จะเข้าไปดูแลราคาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรกับผู้ค้า
ทั้งนี้ ในช่วงหน้าร้อนสินค้าเกษตรส่วนใหญ่จะปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผักใบ มะนาว กรมฯ จะเข้าไปเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรกับผู้ค้าเพื่อให้สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้า และรายงานความคืบหน้ามายังกรมการค้าภายในทุกสัปดาห์ แต่เชื่อว่าสินค้าเกษตรจะปรับราคาสูงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า การการดำเนินโครงการร้านค้าถูกใจจะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อพิจารณากำหนดทิศทางการดูแลร้านค้าถูกใจ โดยเบื้องต้นรัฐบาลมีแนวคิดเดินหน้าโครงการต่อ แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการให้สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม
โดยแนวคิดเบื้องต้นจะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับช่วงต่อไปดูแลร้านถูกใจ ซึ่งขณะนี้ มีร้านค้าเหลืออยู่ประมาณ 6,000 ร้าน เนื่องจาก อคส.เป็นผู้ผลิตข้าวถุงให้กับร้านค้าถูกใจอยู่แล้ว และเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ส่วนสินค้าอื่นผู้ผลิตหลายรายก็ยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการต่อ เช่น ปลากระป๋อง สบู่ ยาสีฟัน และน้ำมันพืช เป็นต้น โดยหาได้ข้อสรุป เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.รับทราบต่อไป
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงแผนการดูแลราคาสินค้าในช่วงหน้าแล้งว่า ได้เฝ้าจับตาราคาสินค้าเกษตรกร 10 รายการที่มักเกิดปัญหาผลผลิตลดลง และราคาสูงในช่วงหน้าร้อน เช่น มะนาว ผักบุ้ง ผักชี กวางตุ้ง หัวไชเท้า และผักกาดขาว โดยมีแผนที่จะเข้าไปดูแลราคาตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรกับผู้ค้า
ทั้งนี้ ในช่วงหน้าร้อนสินค้าเกษตรส่วนใหญ่จะปรับตัวสูงขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มผักใบ มะนาว กรมฯ จะเข้าไปเชื่อมโยงตลาดระหว่างเกษตรกรกับผู้ค้าเพื่อให้สินค้ามีเพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามราคาสินค้า และรายงานความคืบหน้ามายังกรมการค้าภายในทุกสัปดาห์ แต่เชื่อว่าสินค้าเกษตรจะปรับราคาสูงในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น
น.ส.วิบูลย์ลักษณ์กล่าวว่า การการดำเนินโครงการร้านค้าถูกใจจะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาค่าครองชีพที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานภายในเดือนมี.ค.นี้ เพื่อพิจารณากำหนดทิศทางการดูแลร้านค้าถูกใจ โดยเบื้องต้นรัฐบาลมีแนวคิดเดินหน้าโครงการต่อ แต่ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารจัดการให้สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องของบประมาณเพิ่มเติม
โดยแนวคิดเบื้องต้นจะให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) รับช่วงต่อไปดูแลร้านถูกใจ ซึ่งขณะนี้ มีร้านค้าเหลืออยู่ประมาณ 6,000 ร้าน เนื่องจาก อคส.เป็นผู้ผลิตข้าวถุงให้กับร้านค้าถูกใจอยู่แล้ว และเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูง ส่วนสินค้าอื่นผู้ผลิตหลายรายก็ยินดีที่จะเข้าร่วมโครงการต่อ เช่น ปลากระป๋อง สบู่ ยาสีฟัน และน้ำมันพืช เป็นต้น โดยหาได้ข้อสรุป เตรียมเสนอให้ที่ประชุม ครม.รับทราบต่อไป
