พัทลุง - ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ ม.ทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ลุยสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ตลอดถึงการเพิ่มศักยภาพในการทำธุรกิจให้สามารถยืนได้ด้วยตนเอง เพื่อแข่งขันการค้าเสรีรับอาเซียนในปี 2558
วันนี้ (5 ก.พ.) จ.พัทลุง เป็นหนึ่งในประเทศไทยที่มีผลิตภัณฑ์ และสินค้ามากมายไม่ว่าจะเป็นขนมปั้นขลิบ เห็ดยิ้ม น้ำดื่มปาริชาติ GABA DRING ชาเคดีกฤษณา ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ผลิตภัณฑ์โอทอป และผลิตภัณฑ์จากถ่านไม้ไผ่ ภายใต้การส่งเสริมของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ล่าสุด ได้เร่งลุยสร้างองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการให้สามารถยืนได้ด้วยตนเอง เพื่อแข่งขันการค้าเสรีรับอาเซียนในปี 2558 ที่จะถึงนี้
น.ส.เชาวลักษณ์ สมาคม ผู้จัดการศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณวิทยาเขตพัทลุง กล่าวว่า การแข่งขันการค้าเสรีในประเทศอาเซียนเป็นสิ่งจำเป็นแก่ผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก โดยทางตนได้เร่งส่งเสริมผู้ประกอบในสังกัดในการสร้างภาพลักษณ์ใหม่แก่ผลิตภัณฑ์ การตลาด แหล่งเงินทุน การทำบัญชี กฎหมาย ตลอดถึงการเพิ่มศักยภาพพัฒนาองค์ความรู้ด้านต่างๆ ในการทำธุรกิจ และสุดท้าย ผู้ประกอบการสามารถยืนได้ด้วยตนเอง ดั่งวิสัยทัศน์ที่ว่าเป็นศูนย์บ่มเพาะธุรกิจที่ใช้องค์ความรู้จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการออกสู่สังคมอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นการบ่มเพาะผู้ประกอบการจากฐานองค์ความรู้สู่เชิงพาณิชย์
ทางด้าน น.ส.วลัยลักษณ์ มิตรณรงค์ อายุ 38 ปี ผู้ประกอบการจากถ่านไม้ไผ่ แบรนด์ ทาเกะ อยู่บ้านเลขที่ 314 ม.7 ต.ตะโหนดด้วน อ.ควนขนุน จ.พัทลุง กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จากถ่านไม้ไผ่ แบรนด์ทาเกะ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางด้านธุรกิจและเทคโนโลยี ล่าสุด มีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดสุขภาพหลากหลาย เช่น ผงฟอกหน้าจากถ่านไม้ไผ่ (FACE MASK DETOX) สบู่ก้อน สบู่เหลว คลีมล้างหน้า แชมพู ยาสีฟัน ผ้าปิดตา หมอน พวงกุญแจ แผ่นรองเท้า และถ่านดูดกลิ่น ส่วนด้านการตลาดนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ พม่า ลาว อินโดนีเซีย และสาธารณรัฐแอฟริกา สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.08-1963-6351
อย่างไรก็ตาม ศูนย์บ่มเพาะวิสาหกิจ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง ยังได้สนองนโยบายรัฐบาลโดยการเปิดรับนักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ตั้งแต่ระดับ ปวส. ถึงระดับปริญญาตรี หรือจบมาแล้วไม่เกิน 5 ปีเข้าโครงการกองทุนตั้งตัวได้ เพื่อให้เขาเหล่านั้นเป็นผู้ประกอบการ SME รุ่นใหม่ โดยใช้กลไกของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงพัฒนาแผนธุรกิจ ให้คำปรึกษา ตลอดศึกษาความเป็นไปได้ให้เป็นมืออาชีพ สามารถสร้างเงิน สร้างรายได้ที่ยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่มีการย้ายการเจริญเติบโตมาสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น