xs
xsm
sm
md
lg

คิกออฟ “กองทุนตั้งตัวได้” ปั้นเด็กจบใหม่ขึ้นแท่นเถ้าแก่ SMEs

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
รัฐบาลเปิดตัวโครงการ “กองทุนตั้งตัวได้” หนุนนักศึกษาจบใหม่เป็นเถ้าแก่เอสเอ็มอี ระบุวงเงินกองทุน 5,000 ล้านบาท ให้รายละไม่เกิน 1 ล้านบาท และสามารถกู้จากแบงก์รัฐได้เพิ่มอีกรายละไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์บวกร้อยละ 2 ระยะคืน 7-10 ปี และต้องได้รับการค้ำจาก บสย. ตั้งเป้าผู้ขอสินเชื่อ 5,000-10,000 คน

วานนี้ (12 ธ.ค.) .ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานพิธีเปิดตัวโครงการกองทุนตั้งตัวได้ ว่า กลุ่มนักศึกษาถือเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีความพร้อมที่จะเป็นนักธุรกิจ หรือผู้ประกอบการได้แต่ขาดทุนทรัพย์ที่จะดำเนินการ รัฐบาลจึงได้ร่วมกับ 3 ฝ่าย คือ 1. สถาบันการศึกษามหาวิทยาลัย ซึ่งมีความพร้อมด้านองค์ความรู้ 2. ศิษย์เก่าที่ประสบผลสำเร็จ สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ได้ และ 3. สถาบันการเงิน จัดตั้งกองทุนตั้งตัวได้ เพื่อให้โอกาสนักศึกษา หรือผู้จบการศึกษามาแล้วไม่เกิน 5 ปี เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็กรุ่นใหม่

สำหรับโครงการดังกล่าว รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2556 เพื่อจัดตั้งกองทุนหมุนเวียนจำนวน 5,000 ล้านบาท และจะดึงธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเข้าร่วมอีก 10,000 ล้านบาท โดยจะปล่อยกู้ให้นักศึกษาที่กำลังเรียนอยู่ตั้งแต่ระดับ ปวส. จนถึงปริญญาตรี หรือจบมาแล้วไม่เกิน 5 ปี ให้เป็นผู้ประกอบการ SME รุ่นใหม่

ทั้งนี้ จะใช้กลไกของหน่วยบ่มเพาะวิสาหกิจทำหน้าที่พี่เลี้ยงพัฒนาแผนธุรกิจ ให้คำปรึกษา และศึกษาความเป็นไปได้ให้เป็นมืออาชีพ สามารถสร้างเงิน สร้างรายได้ที่ยั่งยืนตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่มีการย้ายการเจริญเติบโตมาสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้น ดังนั้นการส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลาง หรือ SMEs จึงถือเป็นการเสริมสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในภาพรวม

ด้านนายโอฬาร ไชยประวัติ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนตั้งตัวได้ เผยว่า โครงการดังกล่าวจะเป็นแหล่งเงินทุนในการปล่อยกู้ให้นักศึกษาจากสถาบันการศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาที่สำเร็จการศึกษาไม่เกิน 5 ปี ซึ่งมีทักษะและต้องการเป็นเจ้าของกิจการแต่ขาดทุนทรัพย์ ให้มีเงินทุนสามารถนำไปประกอบอาชีพอิสระ วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินรายละ 3 ล้านบาท โดยเงิน 15,000 ล้านบาทของกองทุนฯ มาจากงบประมาณประจำปี 2556 จำนวน 5,000 ล้านบาท และสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่นำมาร่วมลงทุนอีก 10,000 ล้านบาท โดยกลุ่มอาชีพที่สามารถขอกู้เงินได้มี 10 กลุ่ม ได้แก่ การลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ การเกษตร การท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม ภูมิปัญญาไทย และอุตสาหกรรมต่างๆ เป็นต้น

นายโอฬารกล่าวต่อว่า รูปแบบการอนุมัติเงินกู้ของโครงการฯ ประกอบด้วย เงินกู้จากกองทุนตั้งตัวได้วงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ธุรกิจ อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1 และจากธนาคารของรัฐ 5 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์)วงเงินไม่เกิน 2 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์บวกร้อยละ 2 กำหนดระยะเวลาคืนเงิน 7-10 ปี และต้องได้รับการค้ำประกันจากบรรษัทประกันสินเชื่อขนาดย่อม คาดว่าจะเริ่มอนุมัติเงินกู้ให้แก่กลุ่มธุรกิจเบื้องต้นได้ 100 โครงการ และจะมีผู้ขอสินเชื่อประมาณ 5,000-10,000 คน
กำลังโหลดความคิดเห็น