- สำนักงานสถิติอียู รายงานว่า ยูโรโซนเผชิญภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงขึ้นในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 โดยกิจกรรมทางเศรษฐกิจหดตัวลง 0.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่หดตัวลง 0.1% และหดตัวลง 0.6% ตลอดปี 2555 โดย อิตาลี ที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยูโรโซนกำลังเกิดปัญหาถดถอยเรื้อรัง 6 ไตรมาสติดกัน ซึ่งเป็นภาวะถดถอยนานที่สุดในรอบสองทศวรรษ ส่วน โปรตุเกส หดตัวลง 1.8% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว หรือหดตัวลงตลอดปีก่อน 3.2% และ กรีซ หดตัวลงถึง 5.2% ในไตรมาส 4 หรือหดตัว 6.4% สำหรับทั้งปี ส่วน ไซปรัส หดตัวลง 3.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา คาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซน โดยเฉพาะเยอรมนี กำลังเริ่มกลับมาเติบโต
- อิตาลีให้ประมูลพันธบัตรอายุ 3 และ 15 ปี ได้เงิน 3.3 และ 2 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 2.48% และ 4.90% ต่อปี เพิ่มขึ้นจาก 2.30% และ 4.81% ในการประมูลเดือนก่อน เป็นผลมาจากการที่อิตาลีถูก Fitch ลดอันดับความน่าเชื่อถือลงสู่ระดับ BBB ในสัปดาห์ก่อน
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือน ม.ค.ลดลง 0.4% จาก +0.9% ในเดือนก่อน บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจโดยรวมยังคงมีความไม่แน่นอนและยังไม่สามารถฟื้นตัวจากภาวะถดถอยได้
- ยอดขาดดุลของสเปนในเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 1.27 หมื่นล้านยูโรหรือ +35.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายได้สุทธิจากภาษีลดลง 22% ทั้งนี้ ในปีก่อนสเปนขาดดุล 6.7% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าระดับ 6.3% ที่สหภาพยุโรปกำหนดไว้
- ประธานาธิบดีปูติน เตรียมเลือก เอลวิรา นาบิอูลลิน่า ที่ปรึกษาคนสนิท เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางคนใหม่ หลังจากไม่สามารถกดดันให้ธนาคารกลางลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงได้สำเร็จ ซึ่งถ้าได้รับความเห็นชอบจากสภาฯ ก็จะเข้าดำรงตำแหน่งแทนที่ เซอร์จี้ อิกนาตอฟ ที่จะเกษียณอายุในวันที่ 23 มิ.ย.นี้ และจะกลายเป็นสตรีคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
- ยอดค้าปลีกของสหรัฐเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 1.1% ขยายตัวสูงสุดในรอบ 5 เดือน จากการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการจ้างงานที่ฟื้นตัว
- ราคาสินค้านำเข้าของสหรัฐเดือน ก.พ.เพิ่มขึ้น 1.1% สูงสุดในรอบ 6 เดือน เพราะราคาสินค้าพลังงานเร่งตัวขึ้น 5.2% ขณะที่ราคาสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น 0.8% จากราคาสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น 2%
- สต็อกสินค้าของภาคธุรกิจสหรัฐเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 1% สู่ 1.642 ล้านล้านดอลลาร์ (สต็อกสินค้าของกลุ่มผู้ผลิตเพิ่มขึ้น 0.5% กลุ่มผู้ค้าส่งเพิ่มขึ้น 1.2% และกลุ่มค้าปลีกเพิ่มขึ้น 1.5%) บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจสหรัฐเริ่มเพิ่มอัตราการผลิตและสต็อกสินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอนาคต
- รองกรรมการ ผอ. IMF กล่าวว่า ตลาดเกิดใหม่ (EM) จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้นแทนที่ตลาดที่พัฒนาแล้ว (DM) หลังจากเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่ขยายตัวในอัตราที่สูงกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ EM มีส่วนแบ่งในเศรษฐกิจโลกมากขึ้นโดยเฉพาะด้านการบริโภคและการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดเงินตลาดทุนของ EM ยังมีบทบาทน้อยกว่าของ DM อย่างมาก ทำให้เมื่อ DM เกิดวิกฤตการเงิน EM จะได้รับผลกระทบสูงและลุกลามอย่างรวดเร็ว
- ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวว่า ต้องติดตามการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อในประเทศอย่างใกล้ชิด และพร้อมจะใช้มาตรการที่มีอยู่ไปควบคุมเงินเฟ้อให้ตรงตามเป้าที่ไม่เกิน 3.5%
- หยู เจิ้งเซิง ประธานการประชุมสภาปรึกษาการเมืองแห่งชาติจีน แถลงว่า จีนจะไม่เลียนแบบระบอบการเมืองของชาติตะวันตก ไม่ว่าอยู่ในสถานการณ์ใดๆ โดยการพัฒนาทางการเมืองจะทำตามแนวทางสังคมนิยมที่เหมาะสมกับสภาพการและทิศทางการพัฒนาของจีนที่ถูกต้องแน่วแน่อยู่เสมอ ด้วยรากฐานอุดมการณ์ด้านการต่อสู้ร่วมกันเพื่อส่วนรวม
- อัตราว่างงานเกาหลีใต้เดือน ก.พ.เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.0% จาก 3.4%ในเดือนก่อน ทำให้ผู้ว่างงานเป็น 999,000 ราย จากเดิม 847,000 ราย เนื่องจากเป็นช่วงจบการศึกษาทำให้มีบัณฑิตจบใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น
- เกาหลีเหนือ ประกาศว่า การพักรบบนคาบสมุทรเกาหลีนาน 60 ปีได้สิ้นสุดลงแล้ว พร้อมกล่าวหาว่าสหรัฐเป็นผู้ต้องการทำสงคราม
- ผู้ว่าการธปท. กล่าวว่า วานนี้เงินบาทแข็งค่าสุดในรอบ 28 เดือน โดยได้รายงานให้ กนง.ทราบแล้วแต่ยังไม่จำเป็นต้องเรียกประชุมเร่งด่วน ทั้งนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นเพราะเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาเนื่องจากเศรษฐกิจไทยขยายตัวดีและมีโอกาสได้รับการปรับขึ้นอันดับความน่าเชื่อถือ
- รองนายกฯ และ รมต.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง ชี้ว่า ถ้าเงินบาทแข็งค่าเพราะประเทศได้ดุลการค้าหรือดุลบริการเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่หากแข็งค่าจากการไหลเข้าเก็งกำไรจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยก็จะไม่เกิดประโยชน์ต่อประเทศและมีความเสี่ยงมากกว่า จึงได้ส่งสัญญาณไปยัง กนง.และ ธปท.เพื่อให้พิจารณาดอกเบี้ยนโยบายในอัตราที่เหมาะสม ซึ่งผลจะออกมาเป็นอย่างไร ก.คลัง ก็รับได้ทั้งนั้น โดยเงินบาทแข็งค่าก็ไม่ได้มีแต่ข้อเสีย เนื่องจากทำให้ต้นทุนการนำเข้าสินค้าถูกลง โดยบางกลุ่มได้และบางกลุ่มเสียประโยชน์ แต่ในฐานะผู้บริหารเศรษฐกิจจึงต้องการเห็นค่าเงินบาทมีเสถียรภาพ
- รองนายกฯ และ รมต.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง กล่าวว่า ไม่ต้องการออกมาความเห็นในเชิงโต้เถียงเรื่องออก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท แต่ถ้านาย กรณ์ จาติกวณิช มีทางเลือกที่ดีกว่าก็ให้เสนอมาได้ ทั้งนี้ การออกเป็น พ.ร.บ.มีความเหมาะสม โดยวิธีงบประมาณมีกระบวนการรัดกุมมากขึ้นเพราะการตรวจสอบร่วมจาก ก.คลังและสำนักงบประมาณในช่วงระยะเวลาลงทุนต่อเนื่อง 7 ปีจะต่างจากวิธีงบประมาณปกติที่ผูกพันปีต่อปีที่ทำให้หลายๆ โครงการไม่มีความต่อเนื่อง
- องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมนี (GIZ) และ กรมทรัพยากรน้ำ ก.ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ได้ลงนามความร่วมมือ "โครงการส่งเสริมการจัดการน้ำในภาวะวิกฤตโดยการรักษาระบบนิเวศในพื้นที่ลุ่มน้ำ" เพื่อพัฒนาขีดความสามารถการป้องกันภัยพิบัติทางน้ำของประเทศไทย อันเป็นความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการจากเยอรมนี ทั้งนี้ เอดีบี กล่าวว่า แม้ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมากขึ้น แต่ก็มีสัญญานเตือนว่าประเทศกำลังพัฒนาในภูมิภาคนี้ไม่มีความมั่นคงด้านน้ำ ทั้งยังขาดมาตรการเพื่อจัดการกับปัญหา
- SET Index ปิดที่ 1,578.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.02 จุด หรือ +0.13% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 66,955 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 764 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิ 532 ล้านบาท นักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 162 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิที่ 71 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีปรับตัวกลับมาอยู่ในแดนบวกช่วงท้ายตลาดจากแรงซื้อในหุ้นกลุ่มสื่อสารหลังจาก กสทช. คาดว่า ระบบ 3G จะให้บริการได้กลาง เม.ย.
- สมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ เปิดเผยว่า สมาคมจะพบรองนายกฯ และ รมต.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เพื่อสอบถามถึงงบลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาท แล้วจะนำข้อมูลดังกล่าวมาประเมิณภาพรวมเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้น โดยจะปรับเป้าดัชนีตลาดหุ้นไทยใหม่ปลายเดือนมีนาคมนี้
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเปลี่ยนแปลงอยู่ในช่วง -0.03% ถึง +0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท.อายุ 3 ปี วงเงิน 40,000 ล้านบาท
