xs
xsm
sm
md
lg

เผยผลสำรวจความพร้อมภาคธุรกิจรับ “เออีซี” ส่วนใหญ่ตื่นตัว แต่กลัวยังไม่พร้อม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หอการค้าฯ เผยผลสำรวจความพร้อมภาคธุรกิจรับ “เออีซี” พบผู้ประกอบการเริ่มตื่นตัว โดยส่วนใหญ่กว่า 50% เห็นด้วยเลื่อนเปิด “เออีซี” เป็นปลายปี 58

นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวถึงความพร้อมและความเข้าใจของภาคการผลิตและภาคบริการไทยต่อการแข่งขัน ในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ปี 2558 โดยจากการสำรวจ 1,500 ตัวอย่าง ใน 13 ประเภทธุรกิจ พบว่า ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเออีซีมาก โดยเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 24.7 ในปี 2553 พอมาปี 2554 เพิ่มเป็นร้อยละ 87.7 และปี 2555 เพิ่มเป็นร้อยละ 97.78

ขณะที่ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) แม้จะมีสัดส่วนผู้มีความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้น จากร้อยะ 20.5 ในปี 2553 เพิ่มเป็นร้อยละ 42.5 ในปี 2554 และในปี 2555 เพิ่มเป็นร้อยละ 43.8 ซึ่งเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 1 เนื่องจากอยู่ในจังหวัดเล็กๆ ที่ขาดการเข้าถึงข้อมูล

ดังนั้น ต้องเร่งเสริมสร้างความเข้าใจแก่เอสเอ็มอี ส่วนกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่เข้าใจเออีซี มากที่สุด คือ ภาคเกษตรกรรมร้อยละ 80 รองลงมา คือ ภาคอุตสาหกรรมร้อยละ 52.8 โดยธุรกิจที่ไม่เข้าใจมากที่สุด คือ อุตสาหกรรมก่อสร้างมีสัดส่วนที่ไม่เข้าใจสูงถึงร้อยละ 94.74 รองลงมา คือ กลุ่มปศุสัตว์ร้อยละ 93.75 เป็นต้น

ส่วนสาเหตุที่ทำให้ไม่เข้าใจเออีซี เนื่องจากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารยังน้อยและไม่ทั่วถึงโดยเฉพาะเอสเอ็มอีในต่างจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเล็กๆ ซึ่งมีสัดส่วนมากถึงประมาณร้อยละ 61.19 รองลงมาร้อยละ 28.36 เพราะยังไม่มีหน่วยงานใดมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับเออีซีที่ชัดเจน

สำหรับแนวทางการช่วยเหลือที่ต้องการ คือ ควรเผยแพร่ข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับเออีซีผ่านสื่อในทุกๆ ช่องทางให้หลากหลายและบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะสื่อวิทยุและโทรทัศน์ และไม่เป็นวิชาการมากเกินไป พร้อมกันนี้ต้องมีการจัดอบรมสัมมนา และหน่วยงานที่ให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องครอบคลุมทั้ง 77 จังหวัด ส่วนประเด็นเออีซีที่ผู้ประกอบการต้องการข้อมูลเพิ่มเติมมากที่สุด คือ เรื่องมาตรฐานสินค้าร่วมของอาเซียน รองลงมาเป็นการเปิดเสรีด้านการลงทุนและการเคลื่อนย้ายฝีมือแรงงาน

ด้านความพร้อมของภาคการผลิตและภาคบริการกับการแข่งขันในเออีซี พบว่า ในปี 2555 เอสเอ็มอีมากกว่าร้อยละ 50 ยังไม่มีความพร้อมในการแข่งขัน ส่วนผู้ประกอบการขนาดใหญ่มีความพร้อมแล้วที่จะเข้าสู่เออีซี ถึงร้อยละ 94.7

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาความพร้อมของธุรกิจ แยกตามกิจกรรมการผลิตและบริการต่างๆ พบว่า ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังไม่มีความพร้อมในการแข่งขันภายใต้เออีซี ส่วนที่พร้อมแข่งขันได้แก่ ธุรกิจบริการสื่อสารและโทรคมนาคม ธุรกิจการเงิน ธุรกิจภัตตาคารและโรงแรมรวมถึงธุรกิจขนส่ง

สำหรับความเห็นต่อการเลื่อนการเปิดเออีซี จากวันที่ 1 มกราคม 2558 เป็นสิ้นปี 2558 พบว่า ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเอสเอ็มอีร้อยละ 95.56 เห็นด้วย และสิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการได้แก่ ส่งเสริมพัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเออีซี

นอกจากนี้ ควรสนับสนุนการพัฒนาด้านภาษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันควรพัฒนาทักษะและฝีมือแรงงานสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่นักลงทุนต่างชาติ สนับสนุนเงินทุนและการเข้าถึงเงินทุนโดยเฉพาะกลุ่มเอสเอ็มอี ลดความขัดแย้งทางการเมืองและสังคม เป็นต้น
กำลังโหลดความคิดเห็น