xs
xsm
sm
md
lg

ฮั้วประมูลรถเข็นกระเป๋าพ่นพิษ บ.เอพีฯ ส่อผิดสัญญา ทอท.ชะลอจัดหาเพิ่ม บอร์ดเร่งเคาะงบลงทุน 57 วันนี้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทอท.เบรกจัดหารถเข็นกระเป๋าสุวรรณภูมิเพิ่ม เผยเจอปัญหาสัมปทานเดิม บ.เอพีฯ จ่อผิดสัญญาเหตุ sub contract งานต่อกินส่วนต่างค่าจ้าง “สมชัย” ยอมรับ กก.ตรวจการจ้างไม่รอบคอบ ด้านบอร์ด ทอท.เตรียมเคาะงบลงทุนปี 57 เกือบ 7 พันล้าน ก่อนเสนอ สศช.พิจารณาภายใน 15 มี.ค.นี้ 

นายสมชัย สวัสดีผล รักษาการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท. ที่มี น.ต.ศิธา ทิวารี เป็นประธาน วันที่ 11 มีนาคมนี้จะมีการพิจารณางบลงทุนปีงบประมาณ 2557 พร้อมกันนี้จะเสนอขอเพิ่มงบลงทุนปี 2556 เพื่อจัดหาเครื่องเอกซเรย์ Body Scanner หรือเครื่องตรวจบุคคล เพิ่มเติม 8 ตัวเพื่อใช้งานที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 3 ตัว ภูเก็ต 2 ตัว เชียงใหม่ 1 ตัว หาดใหญ่ 1 ตัว และดอนเมือง 1 ตัว จากปัจจุบันมี 5 ตัว ใช้งานเฉพาะที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเป็นการเช่าวงเงิน 6.5 แสนบาทต่อตัวต่อเดือน และจัดหารถรถเข็นกระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มอีก 3,500 คัน

ทั้งนี้ รถเข็นกระเป๋า ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 9,034 คัน ซึ่งบริษัท เอพี เมนเนจเม้นท์ จำกัดเป็นผู้รับสัมปทานให้บริการระยะเวลา 7 ปี (53-60) วงเงิน 566,244,000 บาท นั้น ประกอบด้วยรถเข็นกระเป๋าขนาดเล็ก 2,000 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน และขนาดใหญ่ 34 คันจะต้องมีการจัดหาเพิ่มเติมเพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ซึ่งเดิมกำหนดจำนวน 9,034 คัน รองรับผู้โดยสารที่ 45 ล้านคนต่อปีโดยเน้นผู้โดยสารระหว่างประเทศซึ่งมีประมาณ 33 ล้านคน แต่คาดว่าปี 2556 ผู้โดยสารระหว่างประเทศจะมากกว่า 40 ล้านคนแน่นอน หรือเฉลี่ย 1.25 แสนตนต่อวันในขณะที่ผู้โดยสารในประเทศมีเพียง 2.5 หมื่นคน การหมุนเวียนรถอาจไม่ทัน แต่จะจัดหาต้องขึ้นกับงบลงทุนด้วยว่าเพียงพอหรือไม่ด้วย

“บ.เอพีฯ ส่งมอบรถเข็นครบจำนวนตามสัญญาและมีระบบ RFID ตรวจนับและติดตามรถได้ ส่วนกรณีพนักงานจัดเก็บรถเข็นหยุดทำงานเพราะไม่ได้รับเงินเดือนนั้น ตรวจสอบแล้วเป็นปัญหาที่บริษัท เอพี มีการ sub contract งาน ซึ่งผิดสัญญาโดยก่อนหน้านี้ได้มีการเตือนให้ยกเลิก sub contract แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบว่า กรรมการตรวจการจ้างปล่อยให้มีการ sub contract งานได้อย่างไร” นายสมชัยกล่าว

แหล่งข่าวจาก ทอท.กล่าวว่า การประชุมบอร์ด ทอท.วันที่ 11 มีนาคมนี้ เป็นวาระพิเศษเพื่อพิจารณางบลงทุนปี 2557 ซึ่งมีกรอบเบิกจ่ายประมาณ 6.5 พันล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นงบผูกพันในการลงทุนโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิระยะ 2 ซึ่งจะมีการทำสัญญากับผู้รับเหมาเพื่อเริ่มก่อสร้าง และการขยายขีดความสามารถท่าอากาศยานภูเก็ต โดยจะเร่งสรุปเพื่อเสนอไปยังสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ภายในวันที่ 15 มีนาคมนี้ โดยการประชุมบอร์ดก่อนหน้านี้ได้ให้ ทอท.ทำรายละเอียดเพิ่มเติมให้ครอบคลุมและเหมาะสม เช่น กรณีการจัดหารถเข็นกระเป๋าของท่าอากาศยานดอนเมืองกว่า 3,000 คันเพื่อทดแทนรถเข็นกระเป๋าเดิมที่มีสภาพเก่าประมาณ 1,000 คันและเพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกับรถเข็นกระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิควรทยอยจัดหาให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นเพราะมีความคุ้มค่าในการลงทุนมากกว่าการจัดหาทั้งหมดในครั้งเดียว 

ส่วนการจัดหารถเข็นกระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มอีก 3,500 คันนั้น ล่าสุดได้ประเมินแล้วเห็นว่ายังไม่จำเป็น โดยรถเข็นกระเป๋าที่มีอยู่ปัจจุบัน 9,034 คัน แบ่งเป็นรถขนาดใหญ่ 34 คัน ขนาดกลาง 7,000 คัน ขนาดเล็ก 2,000 คัน ยังเพียงพอต่อการให้บริการ รวมถึงการจัดหาเครื่องเอกซเรย์ Body Scanner ที่ยังไม่มีความจำเป็นมากนักจึงอาจจะยังไม่ต้องลงทุนเพิ่มในขณะนี้ 

รายงานข่าวแจ้งว่า สาเหตุที่ต้องชะลอจัดหารถเข็นกระเป๋าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเพิ่มไปก่อน เนื่องจากมีการตรวจพบและมีข้อสังเกตในการทำงานของบริษัท เอพี หลายเรื่อง เช่น กรณี sub contract งานจนทำให้พนักงานจัดเก็บกระเป๋าประท้วงหยุดงาน เป็นการเอางานไปขายต่อ โดยรับค่าจ้างจาก ทอท.และไปจ้างต่อในวงเงินที่ต่ำกว่า เข้าข่ายผิดสัญญา ,รถเข็นไม่ครบตามจำนวนที่กำหนดในสัญญา ที่ระบุว่าบริษัทต้องมีรถเข็นสำรองเพื่อใช้ทดแทนกรณีที่ซ่อมเพื่อให้รถในระบบเต็มจำนวนตลอดเวลาและยังมีปัญหารถเข็นถูกขโมยถอดชิ้นส่วนไปขาย 

“การประมูลสัมปทานรถเข็นกระเป๋าสุวรรณภูมิเกิดขึ้นในรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งมีการร้องเรียนเรื่องฮั้วประมูลโดยมีกลุ่มการเมืองที่กุมอำนาจในขณะนั้นเข้าไปมีผลประโยชน์ และยังมีปัญหาการส่งมอบรถเข็นในล็อตสุดท้ายประมาณ 4,000 คันที่ล่าช้ากว่ากำหนดวันที่ 17 ก.พ. 2553 โดยบริษัทเอพีฯ อ้างปัญหาสภาพอากาศทำให้เรือขนส่งจากประเทศจีนล่าช้า ซึ่งมีข่าวว่ามีการตรวจพบเอกสารยืนยันทางราชการอาจมีปัญหาอีกด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวถูกหมกเม็ดมาตลอด แต่กลายเป็นประเด็นขึ้นมาอาจเพราะ ทอท.มีประธานบอร์ดคนใหม่ที่เป็นคนใกล้ชิดกับแกนนำพรรคเพื่อไทยซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมืองที่ชัดเจนมากที่สุด” แหล่งข่าวกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น