“บีโอไอ” สุดปลื้มศูนย์พัฒนาการลงทุนไทยในต่างประเทศฉลุยผลอบรม 4 รุ่น มีการเข้าไปลงทุนได้จริงแล้ว 16 โครงการ คาดเตรียมเปิดรุ่น 5-6 ปลายปีนี้ เผยพม่าเนื้อหอมสุดที่นักลงทุนไทยเข้าไปลงทุน
นายอุดม วงศ์วิวัฒน์ไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ศูนย์พัฒนาการลงทุนไทยในต่างประเทศ (Thai Overseas Investment Support Center) หรือ TOISC ได้รายงานถึงความคืบหน้าผลของการอบรมนักลงทุนไทยในต่างประเทศรวม 4 รุ่น พบว่าสามารถเข้าไปลงทุนจริงได้ขณะนี้ 16 โครงการ และคาดว่าจะมีการเปิดโครงการอบรมนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศรุ่นที่ 5-6 ในช่วงปลายปี 2556
โดยรุ่นที่ 1 และ 2 รวม 73 บริษัท ขณะนี้มีนักลงทุนไทยที่เคยเข้าร่วมอบรมหลักสูตรกับบีโอไอได้เข้าไปลงทุนในต่างประเทศแล้วจำนวน 7 โครงการ โดยได้เปิดกิจการโรงแรม และโรงงานผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปในประเทศกัมพูชา และยังมี กิจการชิ้นส่วนยานยนต์ กิจการผลิตอาหาร ในอินโดนีเซียที่อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อทำการลงทุนอยู่ในขณะนี้
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2556 ที่ผ่านมา บีโอไอยังได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่นักลงทุนที่เข้าร่วมอบรมนักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศรุ่นที่ 3 และรุ่นที่ 4 จากจำนวนทั้งสิ้น 67 คน จาก 67 บริษัท มี 9 โครงการ ได้เข้าไปสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศศรีลังกา 6 แห่ง ก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำตาลและเครื่องสำอางค์ในอินโดนีเซีย และผลิตชาใบหม่อนในประเทศลาว
สำหรับผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่ที่เข้ารับการอบรมได้ให้ความสนใจไปลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งบีโอไอได้กำหนดกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนในต่างประเทศ 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่ไปแสวงหาแรงงานและวัตถุดิบ กลุ่มที่ต้องการขยายตลาดสินค้า และกลุ่มที่ไปแสวงเทคโนโลยีการผลิตหรือการตลาด
อย่างไรก็ตาม จากสถิติของผู้ประกอบการไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2550 -2555 พบว่า พม่าเป็นประเทศที่ผู้ประกอบการไทยเข้าไปลงทุน เป็นอันดับ 1 มูลค่าการลงทุน 5,970 ล้านเหรียญสหรัฐ อันดับ 2 ประเทศสิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 3,708 ล้านเหรียญสหรัฐ และอันดับ 3 ประเทศฮ่องกง มูลค่าการลงทุน 2,639 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่เข้าไปลงทุนส่วนใหญ่คือ อุตสาหกรรมเหมืองแร่ การขุดเจาะปิโตรเลียม ประมง อาหารทะเล และค้าส่ง ค้าปลีก
